KBANK กำไรครึ่งแรกปี 55 โต 36.65% ตามรายได้ดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 18, 2012 17:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย(KBANK)เปิดเผยว่า ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิงวดครึ่งปีแรกของปี 55 กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักภาษีเงินได้ 25,235 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,768 ล้านบาท หรือ 23.30% ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 3,494 ล้านบาท หรือ 13.00% ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (NIM) อยู่ที่ระดับ 3.63% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน รวมถึงรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 2,884 ล้านบาท หรือ 16.60% เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ และรายได้เบี้ยประกันภัยรับสุทธิ

นอกจากนี้ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Efficiency ratio) ในปีนี้อยู่ที่ระดับ 42.82% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน รวมทั้งการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% เป็น 23% ในปี 55 ทำให้กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารในงวดนี้มีจำนวน 18,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 4,923 ล้านบาท หรือ 36.65%

ส่วนไตรมาส 2/55 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/55 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 9,367 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 379 ล้านบาท หรือ 4.22% ส่วนใหญ่เกิดจากทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 547 ล้านบาท หรือ 3.67% ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ(NIM)อยู่ที่ระดับ 3.53% ซึ่งใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 560 ล้านบาท หรือ 5.68% เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรายได้เงินปันผลที่เพิ่มขึ้นจากรายการพิเศษที่ไม่เป็นตัวเงินจากการได้รับหุ้นปันผล

สำหรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Efficiency ratio) อยู่ที่ 44.16% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ 41.42% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และค่ากิจกรรมทางการตลาด

ณ วันที่ 30 มิ.ย.55 เครือธนาคารกสิกรไทยมีสินทรัพย์รวม 1,887,036 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 29,887 ล้านบาท หรือ 1.61% และเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 54 จำนวน 164,096 ล้านบาท หรือ 9.52% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุนและเงินให้สินเชื่อ โดยที่เงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ(NPL Gross) อยู่ที่ระดับ 2.20% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน และสิ้นปี 54 ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพื่อรองรับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นไว้แล้ว

สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นอยู่ที่ 15.56% โดยอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ระดับ 9.76% และหากนับรวมกำไรสุทธิจนถึงไตรมาส 2/55 และรายการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าเป็นเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นของธนาคารจะอยู่ที่ 16.86% โดยอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ระดับ 11.06%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ