ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ผลประกอบการภาคธนาคารสดใส หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

ตลาดหุ้นยุโรปปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของภาคธนาคารยุโรป รวมถึงธนาคารเครดิต สวิส นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษที่ระบุว่า ธนาคารกลางอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.1% ปิดที่ 258.93 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3235.40 จุด บวก 58.43 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6684.42 จุด บวก 106.78 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5685.77 จุด บวก 56.68 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากธนาคารหลายแห่งของยุโรปเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด และยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเครดิต สวิส พุ่งขึ้น 4.5% หลังจากธนาคารเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด พร้อมกับประกาศแผนการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและตั้งเป้าเพิ่มปริมาณเงินกองทุน ขณะที่หุ้นธนาคารบังเกียทะยานขึ้น 14% อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่สดใสเช่นกัน

ตลาดหุ้นยุโรปปรับฐานขึ้นขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 6.9% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. สู่ระดับ 760,000 ยูนิต และพุ่งขึ้นถึง 23.6% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวขึ้น

ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวนับว่าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวสู่ระดับ 745,000 ยูนิต

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางมีมติด้วยคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 ให้เพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และอาจจะพิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่มีการประเมินผลกระทบของมาตรการปล่อยเงินกู้งวดใหม่และมาตรการอัดฉีดสภาพคล่อง

หุ้นอิริคสัน พุ่งขึ้น 2.2% หลังจากอิริคสันซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายโทรศัพท์มือถือเปิดเผยผลกำไรที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นพูมา ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าด้านกีฬาชั้นนำของยุโรป ดิ่งลง 4.8% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรและยอดขายในปี 2555

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปในวันนี้ โดยเวลา 15.00 น.ตามเวลาไทย อิตาลีจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ขณะที่ยูโรสแตทจะเปิดเผยยอดดุลการชำระเงินของกลุ่มยูโรโซนเดือนพ.ค. และอังกฤษจะเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนมิ.ย.