TMB กำไร Q2/55 โต 5.7% จาก Q2/54 ตามรายได้-NIM สูงขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 19, 2012 15:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารทหารไทย (TMB) รายงานว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิ 1,263 ล้านบาทในไตรมาส 2/55 ซึ่งเพิ่มขึ้น 22.4% เมื่อเทียบไตรมาสที่แล้ว และ 5.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 54 สำหรับครึ่งปีมีกำไรสุทธิ 2,295 ล้านบาท

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าวว่า ในไตรมาส 2/55 ธนาคารมีผลการดำเนินงานหลัก (core operation) ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งรายได้ดอกเบี้ยและมิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ส่วนต่างดอกเบี้ยรับ(Net Interest Margin—NIM)ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 2.67% จาก 2.51% ในไตรมาสที่ 1/55 และ 2.45% ในไตรมาส 2/54 อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อและการบริหารจัดการต้นทุนเงินฝาก ในขณะเดียวกัน รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้น 16.4% จากไตรมาสที่แล้ว จากรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์และค่าธรรมเนียมสินเชื่อ

เงินให้สินเชื่อของธนาคารเพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และ 6.0% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 54 เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจเอสเอ็มอี ทั้งนี้สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็กมีการขยายตัวเพิ่มมากที่สุดหรือประมาณ 5,000 ล้านบาทในไตรมาสนี้ และ 10,000 ล้านบาทสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี

ธนาคารมีปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้น 7.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และ 7.2% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 54 ทั้งนี้เป็นผลจากมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของเงินฝาก“บัญชีเงินฝากไม่ประจำทีเอ็มบี"(TMB No Fixed)และเงินบริการธนาคารรูปแบบใหม่“ME by TMB"ตลอดจนผลิตภัณฑ์ใหม่“One Bank One Account"ภายใต้แนวคิด Make THE Difference โดย One Bank One Account เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจสามารถทำธุรกรรมทางการเงินทุกสาขาทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยความสะดวก

ในด้านการบริหารสภาพคล่อง ธนาคารยังคงดำเนินการด้วยนโยบายที่รอบคอบระมัดระวังอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง โดยมีการดำรงสภาพคล่องไว้ในระดับสูง ซึ่งเห็นได้จากสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากรวมตั๋วเงินฝาก (loan to deposit & BE ratio) ซึ่งอยู่ที่ 86.5% ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/55

ไตรมาสนี้สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารและบริษัทย่อยมีจำนวนลดลง 2,301 ล้านบาทจากสิ้นไตรมาสที่แล้วมาอยู่ที่ 28,169 ล้านบาท ในขณะที่สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารและบริษัทย่อยลดลงจาก 5.84% มาอยู่ที่ 5.58% ซึ่งสำหรับงบเฉพาะธนาคาร สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 5.17% และในไตรมาสนี้ ธนาคารได้มีการตั้งสำรองทั้งสิ้นจำนวน 932 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 79.0% จาก 74.0% ณ สิ้นไตรมาสที่แล้ว

ณ สิ้นไตรมาส 2/55 ธนาคารดำรงสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio-CAR)อยู่ที่ 18.7% ซึ่งเป็นกองทุนชั้นที่ 1(Tier 1)ในสัดส่วน 11.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ