นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) กล่าวว่า ธนาคารอาจต้องปรับเพิ่มเป้าสินเชื่อจากที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 7% หากเศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งในครึ่งปีแรกธนาคารได้ระดมเงินฝากเพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อไว้แล้ว
สำหรับผลประกอบการของธนาคารในไตรมาส 2/55 เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2/54 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 7,224 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,960 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.23 โดยธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 1,948 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.92% สาเหตุหลักเกิดจากการบริหารจัดการต้นทุนและการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ธนาคารมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 190 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.68%
สำหรับผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกของปี 55 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 13,292 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,853 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.33% คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 1.19 โดย ณ 30 มิ.ย.55 ธนาคารมียอดเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ (หลังหักรายได้รอตัดบัญชี) 1,503,666 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76,323 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.35% จากสิ้นปี 54 และมียอดเงินรับฝาก 1,578,446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 292,686 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.76% จากสิ้นปี 54
ขณะเดียวกันด้านคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ในงวด 6 เดือนแรก มีจำนวน 62,270 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 54 จำนวน 1,732 ล้านบาท หรือลดลง 2.71% ทำให้สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพสุทธิ (NPL Net) ลดลงเหลือเพียง 1.96% และมีแนวโน้มลดลงอีก เนื่องจากสินเชื่อที่ปล่อยใหม่มีอัตราการเกิด NPL ต่ำ จากการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา ได้รับการช่วยเหลือผ่านเงินกู้ผ่อนปรนประเภทต่างๆ จนสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ