รฟม.คาดส.ค.เซ็นสัญญาทำระบบรางสายสีม่วงกับ ITD หลังตกลงที่ 3.58 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 19, 2012 20:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวรัชนี ตรีพิพัฒน์กุล ประธานกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบผลการประกวดราคาสัญญาที่ 6 งานราง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ซึ่งรฟม.เจรจาต่อรองกับบมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ผู้เสนอราคาต่ำสุดรายเดียวเหลืออยู่ที่ 3,585 ล้านบาท ต่ำกว่ากรอบวงเงิน 53 ล้านบาท โดยกรอบวงเงินอยู่ที่ 3,638 ล้านบาท และต่ำกว่าราคาที่เสนอครั้งแรก 557 ล้านบาท โดยราคาที่เสนอครั้งแรกอยู่ที่ 4,142 ล้านบาท ราคาที่ลดลงได้ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับภาษีศุลกากร ซึ่งเดิมเอกชนจะให้รฟม.รับผิดชอบ แต่สุดท้ายจะรับภาระดังกล่าวเอง คิดเป็นเงินประมาณ 192 ล้านบาท คาดว่าภายในเดือนส.ค.นี้ จะสามารถลงนามสัญญาจ้างได้

ส่วนความคืบหน้าสัญญาที่ 4 งานเดินรถ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่นั้น คณะกรรมการมาตรา 13 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ยังไม่ได้เสนอผลการเจรจาค่าบริหารการเดินรถและค่าซ่อมบำรุงกับบมจ. รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) ให้ที่ประชุมรับทราบ เบื้องต้นทราบว่าสามารถเจรจาเหลืออยู่ที่ 8.4 หมื่นล้านบาท จากที่เสนอราคามาประมาณ 9.3 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันรฟม.ได้ศึกษาแนวทางที่รฟม.จะเข้าไปบริหารเดินรถเองด้วย ซึ่งมีข้อดีคือต้นทุนต่ำกว่าเอกชน โดยเฉพาะเรื่องของดอกเบี้ยต่ำกว่าประมาณ 1-2%

นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งนายรณชิต แย้มสอาด ที่ปรึกษา เป็นรองผู้ว่าการ ฝ่ายปฏิบัติการ และแต่งตั้งนายชัยสิทธิ์ คุรุรัตน์ ที่ปรึกษา เป็นรองผู้ว่าการ ฝ่ายกลยุทธ์และแผน ซึ่งเป็นการอนุมัติตามที่นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการ รฟม.คนใหม่เสนอ ขณะเดียวกันที่ประชุมอนุมัติให้ปรับโครงสร้างการทำงานภายในองค์กรใหม่ โดยโครงสร้างใหม่จะเพิ่มตำแหน่งรองผู้ว่าการ เป็น 5 ตำแหน่ง จากเดิม 4 ตำแหน่ง และเพิ่มตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าการเป็น 6 ตำแหน่ง จากเดิม 4 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ รองผู้ว่าการที่เพิ่มขึ้นเป็นตำแหน่งซีเอฟโอ ซึ่งจะเข้ามาดูแลเรื่องการเงินของรฟม. ซึ่งประสบปัญหาขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อปี 2554 กว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจุบันรฟม.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและเงินกู้แล้ว โดยจะทำงานร่วมกับกระทรวงการคลังเพื่อแก้ปัญหาการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมทั้งบริหารหนี้ที่มีอยู่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท

ด้านนายยงสิทธิ์ กล่าวว่า การแต่งตั้งนายรณชิต และนายชัยสิทธิ์ เป็นรองผู้ว่าการ เพราะต้องการให้คนเก่าที่มีความสามารถเข้ามาทำงานที่มีมาก ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้งานเดินหน้าได้ รวมทั้งยังมีผลพลอยได้ในเรื่องการลดความขัดแย้งภายในองค์กร ส่วนการปรับโครงสร้างองค์กร จะรองรับแนวทางใหม่ที่รฟม.ต้องเพิ่มบทบาทในการเดินรถเอง คาดว่ารฟม.จะเดินรถเองอย่างน้อย 2-3 เส้นทาง จากที่จะก่อสร้างทั้งหมด 6 เส้นทาง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ