ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม ตลาดอ่อนแรงลงจากในช่วงแรก เนื่องจากภาวะการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้น และยอดขายบ้านมือสองที่ร่วงลงอย่างหนัก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 11.35 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 12,920.05 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.72 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 1,373.50 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 15.40 จุด หรือ or 0.52% แตะที่ 2,958.00 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นแข็งแกร่ง เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน ซึ่งรวมถึงอินเตอร์เนชันแนล แมชีนส์ คอร์ป (ไอบีเอ็ม) และอีเบย์ อิงค์ แต่ตลาดได้ลดช่วงบวกลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 ก.ค. ดีดขึ้น 34,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2554 มาอยู่ที่ระดับ 386,000 ราย อันเนื่องมาจากปัจจัยตามฤดูกาล หลังจากที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการร่วงลงอย่างมากในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นจากระดับ 352,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 350,000 รายในรายงานก่อนหน้านี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ราว 365,000 ราย
ขณะที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. ร่วงลง 5.4% แตะที่ 4.37 ล้านยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน
อย่างไรก็ตาม ราคากลางของบ้านมือสอง ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.9% สู่ระดับ 189,400 ดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.
หุ้นไอบีเอ็มพุ่งขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า การที่บริษัทหันไปมุ่งเน้นการทำยอดขายซอฟต์แวร์ที่มีมาร์จิ้นสูงช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับการชะลอตัวลงของตัวเลขการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีในช่วงไตรมาสที่แล้วได้
หุ้นอีเบย์พุ่งขึ้น 8.5% หลังจากซีอีโอของอีเบย์ปรับเพิ่มการใช้จ่ายด้านโฆษณาและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อขยายช่องทางการประมูลสินค้าของอีเบย์ ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
หุ้นควอลคอมม์ อิงค์ พุ่งขึ้น 4.4% หลังจากบริษัทเปิดผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในตลาดเกิดใหม่