ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 34.66 จุด ตลาดคลายวิตกหนี้ยุโรป

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 20, 2012 06:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากรัฐสภาเยอรมนีได้อนุมัติให้มีการนำเงินจากกองทุนรักษาเสถียภาพการเงินยุโรป (EFSF) เพื่อให้ความช่วยเหลือภาคธนาคารของสเปน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งข่าวดังกล่าวสามารถบดบังปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 34.66 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 12,943.36 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.73 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 1,376.51 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 23.30 จุด หรือ 0.79% ปิดที่ 2,965.90 จุด

ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 ก.ค. ดีดขึ้น 34,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2554 มาอยู่ที่ระดับ 386,000 ราย จากระดับ 352,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า อันเนื่องมาจากปัจจัยตามฤดูกาล หลังจากที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการร่วงลงอย่างมากในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

ขณะที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. ร่วงลง 5.4% แตะที่ 4.37 ล้านยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน

อย่างไรก็ตาม ตลาดดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงอินเตอร์เนชันแนล แมชีนส์ คอร์ป (ไอบีเอ็ม) และอีเบย์ อิงค์ ขณะเดียวกันตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในระยะนี้อาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พิจารณาเรื่องการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า รัฐสภาเยอรมนีมีมติอนุมัติแผนการนำเงิน 1 แสนล้านยูโรจากกองทุน EFSF ออกมาให้ความช่วยเหลือภาคธนาคาร ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป

หุ้นไอบีเอ็มพุ่งขึ้น 3.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า การที่บริษัทหันไปมุ่งเน้นการทำยอดขายซอฟต์แวร์ที่มีมาร์จิ้นสูงช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับการชะลอตัวลงของตัวเลขการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีในช่วงไตรมาสที่แล้วได้

หุ้นอีเบย์พุ่งขึ้น 8.6% หลังจากซีอีโอของอีเบย์ปรับเพิ่มการใช้จ่ายด้านโฆษณาและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อขยายช่องทางการประมูลสินค้าของอีเบย์ ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น

หุ้นควอลคอมม์ อิงค์ พุ่งขึ้น 4.3% หลังจากบริษัทเปิดผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในตลาดเกิดใหม่ ขณะที่หุ้นกูเกิลพุ่งขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 3.6% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ดิ่งลง 1.9% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ร่วงลง 1.4%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ