BBL เผยสินเชื่อ H1/55 โต 4.8% จากสิ้นปี 54, NIM ลดลงเหลือ 2.63%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 20, 2012 17:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า สินเชื่อของธนาคารในช่วง 6 เดือนแรกปี 55 ขยายตัว 71,115 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.8 จากสิ้นปี 54 หรือ ร้อยละ 13.1 จากสิ้นเดือน มิ.ย.54 เป็นการเติบโตอย่างมีคุณภาพในทุกกลุ่มลูกค้าทั้งลูกค้าขนาดใหญ่ เอสเอ็มอี และลูกค้าบุคคล โดยเฉพาะสินเชื่อระยะยาวจากการขยายการลงทุนของภาคเอกชน สินเชื่อระยะยาวจากการฟื้นฟูกิจการที่ประสบอุทกภัย และสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อผลิตสินค้าตามฤดูการผลิตปกติและเพื่อชดเชยสินค้าที่เสียหาย

แม้ว่าเงินให้สินเชื่อของธนาคารจะเติบโตสูงในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แต่ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต ทำให้ธนาคารสามารถควบคุมคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาส 2/55 อยู่ที่ร้อยละ 2.7 เท่ากับสิ้นปี 54 และลดลงจากร้อยละ 3.0 ณ สิ้นปี 53

ขณะเดียวกัน ธนาคารมีการเตรียมความพร้อมด้านสภาพคล่อง โดยเน้นการระดมเงินฝากจากลูกค้ารายย่อยทำให้ในครึ่งปีแรกธนาคารสามารถระดมเงินฝากเพิ่มขึ้น 85,036 ล้านบาทหรือร้อยละ 5.4 จากสิ้นปี 54 เงินฝากที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากความสัมพันธ์ที่ธนาคารมีมายาวนานกับลูกค้าทุกกลุ่ม ทำให้ธนาคารสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพตลาดใน 6 เดือนแรกปีนี้ ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 27,155 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,182 ล้านบาท

ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 27,155 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,182 ล้านบาทหรือร้อยละ 8.7 จากงวดเดียวกันปีก่อนหน้า ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากสินเชื่อของธนาคารที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ(NIM) ลดลงจากร้อยละ 2.69 ใน 6 เดือนแรกปี 2554 เป็นร้อยละ 2.63 ใน 6 เดือนแรกปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นผลจากต้นทุนเงินฝากที่เพิ่มขึ้นและจากการที่ธนาคารมีค่าใช้จ่ายเงินนาส่งสถาบันคุ้มครองเงินฝากและกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น

ธนาคารมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจำนวน 15,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 893 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.0 ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ และกำไรจากการจาหน่ายสินทรัพย์ ในส่วนของค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน ธนาคารมีค่าใช้จ่ายจานวน 18,356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,466 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.7 จากงวดเดียวกันปีก่อน ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน

นายชาติศิริ กล่าวว่า ธนาคารคาดว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศยังคงมีทิศทางที่ดี โดยมีแรงขับเคลื่อนสาคัญจากการขยายการลงทุนของภาครัฐในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และการขยายการลงทุนของภาคเอกชนทั้งในประเทศและไปต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยอาจจะได้รับผลกระทบจากความผันผวนของวิกฤตเศรษฐกิจโลก

ดังนั้น ธนาคารจึงมีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งในด้านสภาพคล่อง เงินกองทุน และเงินสารองหนี้สงสัยจะสูญ รวมถึงการติดตามสถานการณ์และดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ธนาคารเชื่อว่าการดำเนินงานดังกล่าว จะทำให้ธนาคารสามารถให้บริการที่เหมาะสมและเติบโตไปพร้อมกับลูกค้า ในขณะเดียวกันก็จะช่วยให้ธนาคารมีความพร้อมรับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ