ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงบ่ายนี้ ขณะที่เงินยูโรอ่อนตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี เมื่อเทียบกับเงินเยน และผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ก็อ่อนตัวลงเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่สมาชิกของบอร์ดธนาคารกลางจีนเตือนเรื่องการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และความกังวลเกี่ยวกับกรีซที่อาจจะต้องถอนตัวออกจากกลุ่มยูโรโซน
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ร่วง 1.6% เมื่อเวลา 13.42 น.ตามเวลากรุงโตเกียว
ยูโรร่วงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2543 ในกรอบบนของ 94 เยน ในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดปริวรรติเงินตราโตเกียว จากความวิตกกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยูโรโซน
ในช่วงเที่ยงวันตามเวลาญี่ปุ่น ยูโรอยู่ที่ 1.2111-1.2113 ดอลลาร์ และ 94.68-94.70 เยน เมื่อเทียบกับ 1.2150-1.2160 ดอลลาร์ และ 95.37-95.47 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.2268-1.2270 ดอลลาร์ และ 96.41-94.45 เยนที่ตลาดโตเกียวในเย็นวันศุกร์
ทั้งนี้ ที่ปรึกษาธนาคารกลางจีนคาดว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศอาจจะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 7.4% ในไตรมาส 3 พร้อมกับเตือนว่า ราคาผู้ผลิตและเงินเฟ้ออาจจะส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนการลงทุนของบริษัทที่ทำธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม และส่งผลกระทบต่อความต้องการในการขยายกิจการ
ในช่วงไตรมาส 2 นั้น การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงสู่ระดับ 7.6% ซึ่งถือเป็นสถิจิที่หดตัวลงติดต่อกัน 6 เดือน เนื่องจากวิกฤตการเงินในยุโรปส่งผลกระทบต่อการส่งออก
นายซง กัวจิง คณะกรรมการนโยบายเงินตราของธนาคารกลางจีน กล่าวในการประชุมที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งจัดขึ้นว่า ทุกฝ่ายเห็นพ้องว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนจะใกล้เคียงกับระดับ 8% ในอนาคตอันใกล้นี้ แต่โดยส่วนตัวแล้ว ตนเองมองว่า ตัวเลขอาจจะต่ำกว่านั้น เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับภาคการส่งออก ขณะที่วิกฤตหนี้ยุโรปยังไม่สิ้นสุดลง ก็มีความเสี่ยงที่ว่า มาตรการของทางรัฐบาลอาจจะไม่เพียงพอ หากการส่งออกของจีนร่วงลงมากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ในไตรมาสต่อไป