ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,185.11 จุด ลดลง 23.44 จุด(-1.94%) มูลค่าการซื้อขาย 28,428 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,194.02 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,183.63 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 155 หลักทรัพย์ ลดลง 448 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 109 หลักทรัพย์
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะปรับฐานระยะสั้นถูกผลกระทบจากปัจจัยลบทั้งในและนอกประเทศ โดยปัจจัยต่างประเทศมาจากความกังวลวิกฤตหนี้สเปนปะทุขึ้นอีกครั้งเป็นเหตุให้ดัชนีดาวโจนส์ในสหรัฐ รวมถึงตลาดหุ้นยุโรปอ่อนตัวลงมากเมื่อวันศุกร์ จึงมีผลต่อตลาดหุ้นในเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทยในวันนี้
ผนวกกับปัจจัยในประเทศหลังกลุ่มธนาคารประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/55 ไปแล้ว จึงเกิดแรงขายระยะสั้น ขณะที่กลุ่มอื่นๆ ไตรมาส 2/55 อาจมีผลประกอบการอ่อนแอที่สุดของปี บวกกับการที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาในรอบกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงทำให้มีการขายทำกำไรออกมาในวันนี้
แนวโน้มพรุ่งนี้ช่วงสั้นมีโอกาสไซด์เวย์ ยกเว้นกรณีเดียวความกังวลฟากยุโรปเบาบางลงก็อาจเป็นเหตุให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกรีบาวน์ขึ้นมาได้ แต่อย่างไรก็ตาม ล่าสุดตลาดยุโรปส่วนใหญ่ยังอยู่ในแดนลบประมาณ 1% โอกาสรีบาวน์ในช่วงสั้นจึงน่ามีน้อย โดยให้แนวรับแข็งแรงในระยะนี้ 1,180 จุดเมื่อใกล้บริเวณนี้น่าจะเห็นโอกาสรีบาวน์
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,096.08 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,590.71 ล้านบาท ปิดที่ 58.00 บาท ลดลง 2.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,540.77 ล้านบาท ปิดที่ 326.00 บาท ลดลง 14.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,241.73 ล้านบาท ปิดที่ 157.50 บาท ลดลง 8.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,068.42 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง 3.50 บาท