ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักหลังจากตลาดเปิดทำการไดัเพียง 15 นาทีในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการเงินของสเปนและกรีซ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 221.26 จุด หรือ 1.73% แตะที่ 12,601.31 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 21.82 จุด หรือ 1.58% แตะที่ 1,341.55 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 64.74 จุด หรือ 2.20% แตะที่ 2,861.36 จุด
กลุ่มเจ้าหนี้ของกรีซจะประชุมร่วมกันในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความไม่เชื่อมั่นว่ากรีซจะสามารถทำตามข้อตกลงด้านการให้ความช่วยเหลือ โดยกลุ่มทรอยก้า ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี), ธนาคากลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะเดินทางถึงกรุงเอเธนส์ในวันพรุ่งนี้
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สเปนมีขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสเปนพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.45% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการก่อตั้งสหภาพยุโรป (อียู)
ธนาคารกลางสเปนเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสเปนในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ปรับตัวลง 0.4% จากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2 ปี 2554 เศรษฐกิจของสเปน ที่หดตัวลง 1.0% เนื่องจากสเปนได้ใช้มาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวดอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นวิกฤตหนี้ยูโรโซนได้จุดปะทุความวิตกระลอกใหม่เมื่อแคว้นบาเลนเซียของสเปนระบุว่า จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือฉุกเฉินจากรัฐบาลกลางของสเปน ซึ่งส่งผลเกิดความวิตกว่าสเปนอาจจะเป็นรายต่อไปที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือของภูมิภาค เนื่องจากรัฐบาลกลางสเปนอยู่ในภาวะย่ำแย่อยู่แล้วจากปัญหาหนี้สินและเศรษฐกิจที่รุมเร้า
ข่าวเกี่ยวกับการขอความช่วยเหลือของบาเลนเซียได้บดบังปัจจัยบวกเมื่อวันศุกร์ซึ่งบรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซนได้อนุมัติในขั้นสุดท้ายเพื่อให้ความช่วยเหลือธนาคารที่ประสบปัญหาของสเปน ในวงเงินรวม 1 แสนล้านยูโร
หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลงอย่างน้อย 1.5% หลังจากหุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรปร่วงลง อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่าแค้นบาเลนเซียขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางสเปน
หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ ร่วงลง 3.7% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์ในประเทศจีน
หุ้นแมคโดนัลด์ ร่วงลง 3.5% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ