ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าสเปนอาจจะเป็นประเทศต่อไปที่จะต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศ หลังจากต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลสเปนพุ่งขึ้น และจากข่าวที่ว่าแคว้นบาเลนเซียได้ร้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากรัฐบาลกลางสเปน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 101.11 จุด หรือ 0.79% ปิดที่ 12,721.46 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 12.14 จุด หรือ 0.89% ปิดที่ 1,350.52 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 35.15 จุด หรือ 1.20% ปิดที่ 2,890.15 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงนับตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลสเปนพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกลุ่มยูโรโซน และเป็นระดับที่ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่กังวล่วา สเปนอาจจะไม่สามารถระดมทุนในตลาดได้ ซึ่งอาจจะทำให้สเปนต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากเจ้าหนี้ต่างประเทศในที่สุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรส่งผลให้ CNMV ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ของสเปนระบุในแถลงการณ์ว่า ทางหน่วยงานจะห้ามทำชอร์ตเซลหุ้นทุกกลุ่มเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อทำให้ตลาดกลับสู่ความสงบเรียบร้อย หลังจากที่ราคาหุ้นและพันธบัตรดิ่งลงรุนแรง แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของ CNMV ก็ไม่สามารถสยบกระแสความวิตกกังวลในตลาดได้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า รัฐบาลในหลายภูมิภาคของสเปนได้แสดงความตั้งใจที่จะขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากรัฐบาลกลางของสเปน หลังจากแคว้นบาเลนเซียได้ร้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยรายงานระบุว่าแคว้นบาเลนเซียยังคงต้องการเงินอีก 2.85 พันล้านยูโรภายในสิ้นปีนี้
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยลบมากขึ้นเมื่อธนาคารกลางสเปนเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสเปนในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ปรับตัวลง 0.4% จากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2 ปี 2554 เศรษฐกิจของสเปน ที่หดตัวลง 1.0% เนื่องจากสเปนได้ใช้มาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวดอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของกรีซ โดยกลุ่มเจ้าหนี้ของกรีซจะประชุมร่วมกันในสัปดาห์นี้ ในขณะที่นักลงทุนไม่เชื่อมั่นว่ากรีซจะสามารถทำตามข้อตกลงด้านการให้ความช่วยเหลือ โดยกลุ่มทรอยก้า ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี), ธนาคากลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะเดินทางถึงกรุงเอเธนส์ในวันนี้
หุ้นแมคโดนัลด์ ร่วงลง 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยเกินคาด ขณะที่หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ร่วงลง 1.8% หลังจากบริษัทประกาศลดจำนวนพนักงาน 1,300 คน หรือในสัดส่วน 2% ของตัวเลขจ้างงานในองค์กร
หุ้นแอปเปิล ปรับตัวลง 0.1% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊กอ่อนแรงลง 0.1% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการภายในสัปดาห์นี้
นักลงทุนจับตาดุข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย. วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายเดือนมิ.ย.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประมาณการจีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 2/2012 และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ค.