ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 104.14 จุดหลังมูดีส์หั่นแนวโน้มเครดิตเยอรมนี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 25, 2012 06:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของเยอรมนี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความซบเซาของผลประกอบการในภาคเอกชน และการชะลอตัวลงของภาคการผลิตทั้งในสหรัฐและยุโรป

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 104.14 จุด หรือ 0.82% ปิดที่ 12,617.32 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 12.21 จุด หรือ 0.90% ปิดที่ 1,338.31 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 27.16 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 2,862.99 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของเยอรมนี, เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก ลงสู่ "เชิงลบ" จากเดิมมีเสถียรภาพ โดยมูดีส์ระบุว่า การตัดสินใจปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของทั้ง 3 ประเทศในครั้งนี้ มูดีส์พิจารณาจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นว่า กรีซอาจจะต้องออกจากกลุ่มยูโรโซน ซึ่งจะก่อให้เกิดภาวะ "วิกฤตการณ์ภาคการเงินแบบลูกโซ่" และจะทำให้เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก และประเทศอื่นๆที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุดนั้น ต้องแบกรับภาระในการให้ความช่วยเหลือ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากมาร์กิตเปิดเผยว่าดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐปรับตัวลงแตะ 51.8 ในเดือนก.ค. จากระดับ 52.5 ในเดือนเม.ย. ขณะที่ดัชนี PMI รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของเยอรมนีในเดือนก.ค.อ่อนแรงลงแตะ 47.3 จาก 48.1 ในเดือนมิ.ย. โดยเป็นการปรับตัวลงเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นอกเหนือจากความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวแล้ว ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทสหรัฐ โดยบริษัท ยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส (ยูพีเอส) ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ลง 4% เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นยูพีเอสร่วงลง 4.6%

ขณะที่บริษัท ดูปองท์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ เปิดเผยว่ารายได้สุทธิไตรมาส 2 ร่วงลง 3% เนื่องจากธุรกิจที่ซบเซาลงในยุโรปและเอเชีย ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นดูปองท์ร่วงลง 2%

หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าการคาดการณ์ ขณะที่หุ้นเวิลด์พูล ดิ่งลง 7.5% เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนในระดับหนึ่ง จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3

นักลงทุนจับตาดุข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย. วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายเดือนมิ.ย.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประมาณการจีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 2/2012 และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ