นายวันชัย ศุภพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ลิฟวิ่งแลนด์แคปปิตอล(LL)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในงวดไตรมาส 2/55 คาดว่าจะออกมาดีขึ้น เนื่องจากบริษัทฯได้รับการลดหนี้(Hair cut)ลงไปได้มากภายหลังจากที่ได้มีการเจรจากับเจ้าหนี้ ทำให้สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทฯปรับตัวดีขึ้น
รวมทั้งโครงการลิฟวิ่งนารา-รังสิตเริ่มจะขายได้อีกครั้งภายหลังจากที่มีเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยบริษัทฯก็ได้มีการปรับคันดินให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำให้กับลูกค้าด้วย แต่คาดว่าจะรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 3/55 ภายหลังจากที่ลูกค้าได้มีการโอนโครงการกันแล้ว
สำหรับรายได้หลักของบริษัทฯในปัจจุบันยังมาจากโครงการแนวราบและธุรกิจพัฒนาที่ดิน ซึ่งบริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาธุรกิจเกี่ยวกับคลังสินค้า แต่คงจะต้องวางแผนทางการเงินให้ดีก่อน นอกจากนี้บริษัทฯก็อยู่ระหว่างเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ โดยให้ความสนใจพื้นที่ย่านสุขาภิบาล 3 ที่บริษัทฯมีที่ดินอยู่ รวมทั้งพื้นที่แถวสุวรรณภูมิ เพราะมองว่าเป็นพื้นที่ที่การเติบโตของที่อยู่อาศัยค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LL กล่าวว่า รายได้ของบริษัทฯในปี 55 คาดว่าจะมีการเติบโตขึ้นจากโครงการที่รังสิตและ ภูเก็ต การขายที่ดินในสมุยและอาคารพาณิชย์ รวมแล้วน่าจะมีรายได้ประมาณ 600-700 ล้านบาท คงต้องรอลุ้นช่วงครึ่งปีหลังว่าจะขายได้ทั้งหมดหรือเปล่า หากปิดการขายได้ก็จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯในปีนี้มีโอกาสพลิกเป็นกำไร
"ตอนนี้ทางบริษัทฯได้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้เยอะแล้ว ธุรกิจเก่าขายไปเยอะ อย่างที่ดินที่สมุยเป็นที่เราไม่ทำธุรกิจ ก็จะขายออกไป ซึ่งกำลังเจรจากับผู้ซื้ออยู่คาดว่าจะจบในปีนี้ ส่วนอาคารพาณิชย์มีทั้งหมด 8 ห้องตอนนี้ก็ขายไปได้แล้ว 6 ห้อง ก็คาดว่าในเดือนกันยายนนี้จะขายได้หมด"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LL กล่าว
นายวันชัย กล่าวต่อว่า สำหรับหุ้นเพิ่มทุนที่จะเสนอขายนักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP)จำนวน 1,000 ล้านหุ้น จะเสนอขายไม่ต่ำกว่า 0.25 บาท/หุ้น และ/หรือราคาไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดถัวเฉลี่ยย้อนหลัง 14 วัน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจาอยู่ยังไม่สรุป ซึ่งก็คงจะเสนอขายให้แก่นักลงทุนไทยเป็นรายบุคคล โดยทางบริษัทฯจะพยายามให้จบภายในไตรมาส 3/55 แต่ทั้งนี้บริษัทฯได้ขอมติผู้ถือหุ้นที่จะดำเนินการขายให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้(2555)