นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการบริหาร บมจ.จีเอ็มเอ็มแกรมมี่(GRAMMY)กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของกลุ่ม GRAMMY จากนี้ไปจะใช้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซด จำกัด(GMMz)เป็นหลักในการขับเคลื่อนต่อยอดธุรกิจ โดยตั้งเป้า 3 ปี (ปี 55-58)ให้ GMMz ทำรายได้ระดับ 1 หมื่นล้านบาท สูงกว่ารายได้ของเครือ GRAMMY และกำไรจะเติบโตดีกว่า เนื่องจากธุรกิจของ GMMz มีอัตราการกำหรดค่อนข้างสูง
บริษัทจะเพิ่มงบลงทุนของ GMMz เพื่อใช้ซื้อคอนเท้นท์ทั้งในประเทศและต่างประเทศภายใน 3 ปี เป็น 1.2 หมื่นล้านบาท จากเดิม 1 หมื่นล้านบาท โดยเตรียมแนวทางระดมเงินทุนไว้หลายทางเลือก ขณะที่ตั้งเป้าขายกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมของ GMMz ให้ได้ 5 ล้านกล่องใน 3 ปีข้างหน้า และจะมีรายได้จากค่าโฆษณาเข้ามาอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งในปีหน้าจะเริ่มการจัดเรทติ้ง ดังนั้น รายได้หลักของ GMMZ จากนี้จะมาจากการขายกล่องฯ ค่าโฆษณา และเพย์ทีวี
"กลางปีนี้-กลางปีหน้าตั้งเป้าที่จะซื้อและทำคอนเท้นท์ของตัวเองที่ 1.5 พันล้านบาทเป็นรายการใหม่ทั้งหมด ส่วนช่องรายการทีวี ปีหน้าจะเพิ่มอีก 10 ช่อง ทำฟรีทีวี และเพย์ทีวี ทำให้มีช่องรายการไม่ต่ำกว่า 30 ช่อง จากปัจจุบันมี 23 ช่อง...ผู้ถือหุ้นไม่ต้องกังวลที่ GMMz ต้องลงทุนสูงถึง 1.2 หมื่ล้านบาท เพราะดูจากสินทรัพย์ที่บริษัทมีอยู่และรายได้ที่จะเกิดขึ้น และยังสามารถกู้หรือเพิ่มทุน หรือระดมทุนอื่นๆ ฐานะการเงินของบริษัทยังรับได้" นายไพบูลย์ กล่าว
บริษัทยังยืนยันที่จะเดินหน้าหาซื้อคอนเท้นท์กีฬา เพื่อก้าวสู่อันดับ 1 ของผู้ที่มีคอนเทนท์กีฬาในมือมากที่สุดในไทย โดยจะมีการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขีนกีฬาประเภทต่าง ๆ ต่อเนื่อง จากก่อนหน้าเป็นฟุตบอล จากนี้ไปจะมองทั้งกีฬาประเภทอื่น เช่น เทนนิส และกอล์ฟ เป็นต้น
นายไพบูลย์ เปิดเผยอีกว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการร่วมทุนในบมจ.เคเบิ้ลไทย โฮลดิ้ง(CTH) ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการร่วมทุน หรืออาจจะเลือกที่จะขายคอนเท้นท์ให้เท่านั้น คาดว่าจะมีข้อสรุปในสัปดาห์หน้า โดยปัจจุบันทาง CTHH ก็เป็นพันธมิตรกันอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นายไพบูลย์ ปฎิเสธให้ความเห็นถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าบริษัทเตรียมขายหุ้นที่ถืออยู่ใน บมจ.บางกอกโพสต์(POST) และ บมจ.มติชน (MATI)เพื่อระดมเงินทุนไว้ใช้ในการขยายธุรกิจทีวี โดยกล่าวเพียงว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศได้ขอความร่วมมือให้งดความเห็นในเรื่องดังกล่าว