ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของ บมจ. บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้ง (BTS) อนุมัติการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นและมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทโดยลดจำนวนหุ้นจำนวน 62,844,831,126 หุ้น จากเดิม 74,815,275,150 หุ้น เป็นจำนวน 11,970,444,024 หุ้น และเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้(พาร์)จากเดิมหุ้นละ 0.64 บาท เป็นหุ้นละ 4 บาท
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ BTS กล่าวถึง สาเหตุในการรวมพาร์เป็น 4 บาทว่า เพื่อให้อยู่ในช่วงเดียวกับมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทจดทะเบียนใน SET 50 โดยปัจจุบันมี BTS และธนาคารทหารไทย (TMB) ที่มีพาร์ต่ำกว่า 1 บาท และเมื่อปรับมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ให้มีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสายตานักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติและมีผลต่อการทำธุรกรรมและมาร์เก็ตแคป
"เราพยายามออกไปแนะนำหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นต่างประเทศ แต่ถ้าราคาพาร์เป็นเศษสตางค์ก็ทำให้เข้าใจยาก ผมศึกษามาแล้วมี 2 บริษัทใน SET 50 มีพาร์ต่ำกว่า 1บาท ... ไม่ได้มีวาระอะไร" นายคีรี กล่าวกับผู้ถือหุ้น
ดังนั้น จะส่งผลให้จำนวนหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ลดลงในอัตราส่วน 25 หุ้นเดิม: 4 หุ้นใหม่ หรือ เท่ากับ 6.25หุ้นเดิม: 1 หุ้นใหม่ แต่หากมีเศษหุ้นบริษัทจะรับซื้อหุ้นละ 0.80 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นราคาถัวเฉลี่ยน้ำหนักหุ้นของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกันก่อนวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
ดังนั้นตามแผนของบริษัทคาดว่ากลางเดือนสิงหาคม หุ้นบริษัทจะเทรดบนพาร์ใหม่ โดยจะมีการออกข่าวล่วงหน้า 3 วันก่อนเทรดบนพาร์ใหม่
ทั้งนี้จากการเปลี่ยนแปลงราคาพาร์ บริษัทจะต้องปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งที่ 2 (BTS-W2) และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่ออกให้แก่พนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยครั้งที่1 (BTS-WA) และปรับราคาแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทที่เสนอขายให้กับนักลงทุนในต่างประเทศ