ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งในวันนี้ หลังจากเผชิญแรงเทขายติดต่อกันมา 4 วัน โดยบรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องสกุลเงินยูโร
ดัชนี Stoxx 600 พุ่ง 2.1% แตะที่ 255.61 จุด ณ เวลา 14.22 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ โดยดัชนีหลักของตลาดหุ้นประเทศต่างๆในยุโรปปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกเกือบทั้งหมด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้น 1.4% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี บวก 1.8% และดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส พุ่ง 3.1%
ด้านดัชนี IBEX 35 ของสเปนทะยาน 4.3% และดัชนี FTSE MIB ของอิตาลี ทะยาน 4.9%
ขณะที่ค่าเงินยูโรเดินหน้า 1.2% แตะ 1.2306 ดอลลาร์ ณ เวลา 21.33 น.ตามเวลาประเทศไทย และแข็งค่าขึ้น 1.3% แตะ 96.25 เยน
หุ้นยุโรปและสกุลเงินยูโรได้รับปัจจัยหนุนจากถ้อยแถลงของประธานอีซีบี โดยนายดรากิกล่าวในที่ประชุมว่าด้วยการลงทุนโลกที่กรุงลอนดอนในวันนี้ว่า การปกป้องสกุลเงินยูโรถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบของอีซีบี และอีซีบีจะดำเนินการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องสกุลเงินยูโรให้อยู่รอดปลอดภัย พร้อมกับขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นในความสามารถของอีซีบี
นอกจากนี้ นายดรากิกล่าวว่าตลาดการเงินกำลังประเมินความคืบหน้าในการแก้ไขวิกฤตการณ์ในยูโรโซนต่ำเกินไป และสกุลเงินยูโรก็แข็งแกร่งมากกว่าที่หลายฝ่ายคาดคิด
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งสูง นำโดยหุ้นบังโค ซานตานเดร์ ธนาคารชั้นนำของสเปนที่ทะยาน 7.5% และหุ้นยูนิเครดิต ธนาคารรายใหญ่สุดของอิตาลี ทะยาน 7.4%
ทั้งนี้ หุ้นซานตานเดร์พุ่งสูงขึ้น แม้ธนาคารรายงานผลกำไรไตรมาสสองที่ร่วงลงถึง 93%
ส่วนหุ้นยูนิลีเวอร์บวก 6.2% หลังบริษัทรายงานยอดขายที่สูงเกินคาด
อย่างไรก็ตาม หุ้นอัลคาเทล-ลูเซนท์ร่วง 4.8% หลังผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายของฝรั่งเศสประกาศว่าจะปรับลดพนักงาน 5,000 คน โดยหวังว่าจะช่วยบริษัทประหยัดต้นทุนเพิ่มอีก 750 ล้านยูโร ภายหลังบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส ที่ 254 ล้านยูโร เทียบกับกำไรสุทธิ 43 ล้านยูโรในปีที่แล้ว
หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ลบ 3% หลังบริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดของยุโรปรายงานผลกำไรไตรมาสสองร่วงลง 13% แตะ 5.7 พันล้านยูโร ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้