ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,193.32 จุด เพิ่มขึ้น 15.31 จุด(+1.30%) มูลค่าการซื้อขาย 18,820.21 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,193.32 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,183.34 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 333 หลักทรัพย์ ลดลง 168 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 164 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยได้ปัจจัยในและนอกประเทศเกื้อหนุน จึงทำให้มีแรงซื้อเน้นเข้ามาที่กลุ่มแบงก์และพลังงาน โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานยังได้รับปัจจัยบวกราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ นักลงทุนมีความคาดหวังจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED)และธนาคารกลางยุโรป(ECB) ซึ่งในส่วนของการประชุม FED ก็คาดหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนการประชุม ECB ก็คาดหวังมาตรการแก้ไขวิกฤตยุโรป การที่นักลงทุนมีความหวังอีกรอบทำให้มีแรงซื้อเข้ามาที่หุ้นบิ๊กแคปในวันนี้ ประกอบกับหุ้นในกลุ่ม Domestic plays มีผลประกอบการออกมาดีขึ้น และยังให้ปันผลที่น่าจูงใจด้วย
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(31 ก.ค.)น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ในช่วงที่กำลังรอผลการะชุม ตลาดฯก็คงจะเป็นลักษณะของ Wait & See ไปก่อน จนกว่าผลประชุมจะออกมา พร้อมให้มองกรอบการแกว่งของสัปดาห์นี้ โดยมีแนวรับที่ 1,180 จุด และมีจุด Filter ที่ 1,170 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,190-1,195 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,683.36 ล้านบาท ปิดที่ 172.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,191.04 ล้านบาท ปิดที่ 158.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 795.90 ล้านบาท ปิดที่ 58.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
KAMART มูลค่าการซื้อขาย 751.72 ล้านบาท ปิดที่ 6.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 739.61 ล้านบาท ปิดที่ 327.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท