นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มากนัก ซึ่งคงจะเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้แกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบคละกันเฉลี่ยประมาณ 0.2-0.7%
เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนคงจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูตัวเลขเศรษฐกิจของไทยที่จะมีการประกาศออกมาในบ่ายวันนี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง และยังรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ซึ่งจะมีการเปิดการประชุมวันนี้และจะจบในวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งนักลงทุนก็มีความคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการที่จะมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็มีนักลงทุนบางส่วนที่หันมาเล่นเก็งกำไรด้วยเรื่องนี้ และหลังจากการประชุมเฟดจบแล้วก็มีการประชุมของธนาคารกลางยุโรป(ECB)ต่ออีกในวันที่ 2 ส.ค.2555
"วันนี้มองว่าตลาดฯมีโอกาสที่จะถูกขายทำกำไร หลังจากที่เมื่อวานนี้ตลาดฯได้ปรับตัวขึ้นไปมาก ขณะที่วอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมน้อย ดังนั้นตลาดฯวันนี้คงเป็นลักษณะของการแกว่งตัวตัว เพื่อรอปัจจัยชี้นำใหม่"นายอภิชาติ กล่าว
พร้อมให้แนวรับ 1,183-1,185 จุด ส่วนแนวต้าน 1,196-1,200 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(30 ก.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,073.01 จุด ลดลง 2.65 จุด(-0.02%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,385.30 จุด ลดลง 0.67 จุด(-0.05%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,945.84 จุด ลดลง 12.25 จุด (-0.14%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดวันนี้ นิกเกอิญี่ปุ่น ลดลง 34.52 จุด ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 76.01 จุด เวทเต็ดไต้หวัน ลดลง 18.35 จุด คอมโพสิตเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.67 จุด FBMKLCI มาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.86 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 1.20 จุด และ FTSE STI สิงคโปร์ ลดลง 47.37 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(30 ก.ค.) ที่ระดับ 1,193.32 จุด เพิ่มขึ้น 15.31 จุด(+1.30%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,280.04 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 89.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.35 ดอลลาร์หรือ 0.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(30 ก.ค.)ปิดทำการที่ 8.1 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.58/60 ตลาดรอผลเฟด-ECB
- สศค.รับวิกฤติหนี้ยุโรปส่งผลกระทบแรง ฉุดจีดีพีไตรมาส 2 โตไม่ถึง 3%, นักวิชาการชี้ส่งออกฟุบยาวถึงปี 2556 สรท.ปรับเป้าส่งออกปีนี้เหลือ 5.9% จาก 12% เผยไตรมาส 3 ตลาดส่งออกหลักติดลบทุกตลาด เนื่องจากการบริโภคในอียูสหรัฐ-ญี่ปุ่นยังชะลอตัว ขณะที่ไตรมาส 4 ขยายตัว 30% เหตุฐานปีก่อนต่ำ ยื่นรัฐ 8 ข้อเสนอ คลี่คลายอุปสรรคส่งออก
- ครม.ไฟเขียวขยายเวลาส่งมอบรถคันแรกออกไปไม่มีกำหนด แต่ไม่ขยายระยะเวลาโครงการ ต้องจองก่อน 31 ธ.ค. 2555 แต่ผ่อนผันยื่นเอกสารได้ภายหลังส่งมอบรถใน 90 วัน เผยล่าสุดยอดขายเฉียดแสนคัน คาดสิ้นปีทะลุ 4 แสนคัน ขณะผู้ประกอบการชี้ดันยอดขายพุ่ง หลังเกณฑ์ออกมาชัดเจน
- นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ตัวเลขที่สื่อต่างชาติบอกรัฐบาลใช้เงินถึง 6 แสนล้านบาท ในโครงการรับจำนำข้าวนั้น ถือว่าคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง โดยยืนยันการรับจำนำข้าวทั้งโครงการนาปีฤดูกาล 2554/2555 และโครงการนาปรัง ฤดูกาล 2555 ยังอยู่ในกรอบ2.6 แสนล้านบาท ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ใช้ในโครงการรับจำนำ ซึ่งยังเหลือเงินอยู่อีกหลายหมื่นล้านบาทสะท้อนได้จากมติของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่อนุมัติให้มีการรับจำนำข้าวนาปรังรอบ 2 ซึ่งเป็นผลผลิตที่เหลือค้างจากพื้นที่ภาคกลาง2 ล้านตัน หรือต้องใช้เงินเพิ่มอีก 2 หมื่นล้านบาทหากงบประมาณหมดก็คงดำเนินการไม่ได้
- "บุญทรง เตริยาภิรมย์" รมว.พาณิชย์ เผยประชุม ครม.เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศ 3 หมื่นตันภายในเดือน ส.ค. ตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เพื่อแก้ไขปัญหาสต๊อกน้ำมันปาล์มในประเทศขาดแคลน โดยล่าสุดทางองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้เปิดให้ตัวแทนฅต่างประเทศยื่นเสนอราคาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ 1 หมื่นตันเข้ามาคาดจะสามารถเสนอซื้อได้ราคาไม่เกิน 30 บาท/กิโลกรัม และนำมาผลิตเป็นน้ำมันปาล์มบรรจุขวดตามราคาเพดาน 42 บาท/ขวด
*หุ้นเด่นวันนี้
- TTCL(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้าหมายปี 56 อยู่ที่ 20 บาท คาดผลประกอบการ 2Q55 เติบโต 72% YoY และ 8% QoQ พร้อม Backlog แข็งแกร่งมาก ล่าสุดชนะงานในสหรัฐกว่า 3,750 ล้านบาท เชื่อ 2H55 จะโดดเด่นกว่า 1H55
- CPALL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 44 บาท คาดกำไร 2Q12 โตแข็งแกร่ง +31% Y-Y จาก Same store sales growth ที่โตดี 8.5% Y-Y กำไรดังกล่าวโต 3% Q-Q ถือว่าดีเพราะไตรมาสนี้ค่าแรงที่เพิ่ม ทั้งนี้เป็นผลจากการปรับ product mix ทำให้ gross margin อยู่ในระดับดีต่อเนื่องที่ 28.5% แนวโน้ม 2H12 ดีต่อ จาก Stamp promotion ตั้งแต่ ก.ค.-พ.ย. กระตุ้นยอดขาย
- PTTGC(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 67 บาท ปตท.ปรับสูตรราคาซื้อขายก๊าซที่เป็นวัตถุดิบปิโตรเคมีตามราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น มีผล 1 ส.ค.ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นประมาณ US$40/เมตริกตัน หรือเพิ่มขึ้น 8% กระทบกำไรในปีนี้ 4% และปีหน้า 10% ขณะที่ PTT จะมีรายได้เพิ่ม 4 พันล้านบาท/ปี ทั้งนี้ เราได้รวมในประมาณการแล้ว เรามองเป็นบวกสำหรับข่าวนี้เพราะนักลงทุนจะได้คลายกังวลกับข่าวนี้ที่อยู่ในตลาดมาพักใหญ่แล้ว