บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์(QH) ปรับเป้ากำไรปี 55 เป็นโต 100% จากเดิมคาด 70% หลังมีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์กว่า 700 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานในปีนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดว่าจะเติบโต 30% มาที่ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีกกว่า 10 โครงการ มูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. 55 บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้ 2.5 พันล้านบาท อายุ 5 ปี ทั้งนี้ ในปี 56 บริษัทตั้งเป้าลด D/E เหลือไม่เกิน 1 เท่า จาก 1.4 เท่าในสิ้นไตรมาส 2/55
นางสุวรรณา พุทธประสาท กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ QH กล่าวว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้ากำไรปี 55 เนื่องจากจะมีการบันทึกกำไรพิเศษกว่า 700 ล้านบาทในไตรมาส 3/55 จากการขายโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ 3 โครงการ ได้แก่ เซนเตอร์ พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ เพชรบุรี, เซนเตอร์ พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ สุขุมวิท และ เซนเตอร์ พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ หลังสวน ให้เป็นสินทรัพย์ของกองทุนอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ควอลิตี้เฮ้าส์ โฮเทล แอนด์ เรซิเด้นท์ (QHHR) มูลค่า 3,360 ล้านบาท รวมทั้งได้รับประโยชน์จากมาตรการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล
บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีโต 30% มาที่ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท หลังปัจจุบันมีแบล็กล็อกแล้ว 8,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้กว่า 3,000 ล้านบาท ช่วงครึ่งหลังบริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่อีกกว่า 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวมเกือบ 2 หมื่นล้านบาท เป็นโครงการต่างหวัด 5 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 2 และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ขณะที่ครึ่งแรกเปิดตัวไปแล้วเกือบ 10 โครงการ มูลค่ารวม 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท
สำหรับปีนี้ต้นทุนรวมปรับเพิ่มขึ้น 8-10% จากค่าแรงและวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทได้ปรับราคาขายบ้านไปแล้วในไตรมาส 2/55 ราว 3-5% ครอบคลุมต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นแล้ว ส่วนช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีการปรับอีกหรือไม่นั้น บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณา
"รายได้เราปกติ target growth 15-20% แต่ปีนี้คาดว่าจะโต 30% เพราะปีที่แล้วเกิดน้ำท่วมทำให้คนมาโอนโครงการในปีนี้มากขึ้น ขณะนี้ดีมานด์ใน กทม.ยังไม่ค่อยมาก คนอาจจะยังกังวลเรื่องน้ำท่วม แต่ต่างจังหวัดมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวและเมืองอุตฯ"นางสุวรรณา กล่าว
บริษัทตั้งงบลงทุนรวม 9 พันล้านบาทในปีนี้เพื่อซื้อที่ดิน 3 พันล้านบาทและก่อสร้าง 6 พันล้านบาท โดยบริษัทเตรียมออกหุ้นกู้มูลค่า 2.5 พันล้านบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยกว่า 4% โดยจะเสนอขายช่วงปลายส.ค.-ต้นก.ย.นี้ เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนดไถ่ถอน บริษัทมีแผนจะปรับลด D/E ลงเหลือไม่เกิน 1 เท่า ในปี 56 หลังสิ้นไตรมาส 2/55 คาดว่า D/E เหลือ 1.4 เท่า
ทั้งนี้ หลังบริษัทได้ขายสินทรัพย์เข้ากองทุนจะนำเงินส่วนหนึ่งไปชำระหนี้ธนาคารกว่า 2,000 ล้านบาท แต่ถ้าจะลด D/E เหลือไม่เกิน 1 เท่า ต้องชำระหนี้อีก 3-4 พันล้านบาท