ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,193.53 จุด เพิ่มขึ้น 0.21 จุด(+0.02%) มูลค่าการซื้อขาย 10,111.30 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,198.84 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,189.38 จุด
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์สำหรับลูกค้าสถาบัน บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซต์เวย์ไม่ไกลนัก เป็นในไปทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอดูผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC)และการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป(ECB)โดยมีความคาดหวังในเรื่องของมาตรการที่จะมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และแนวทางการช่วยเหลือยูโรโซน
สำหรับปัจจัยในประเทศยังไม่ได้ถึงจุดที่มีอิทธิพลต่อตลาด แม้ว่าการเมืองจะมีความขัดแย้งกันภายในก็ตาม ส่วนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยประกาศออกมาก็เป็น Positive ต่อตลาดฯ ซึ่งนักลงทุนบางคนก็ยังคงเล่นเก็งกำไรตามผลประกอบการเป็นรายตัวไป และก็บางคนที่เล่นเก็งเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE)ด้วย
"วันนี้ที่ตลาดฯปรับตัวลงก็คงเป็นเพราะมีการขายทำกำไรออกมาหลังจากที่ได้มีการเข้าไปเล่นเก็งกำไรไว้ในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว แม้แต่กลุ่มลังงานก็ถูกขายทำกำไรออกมาหลังจากที่ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลง"นายวรุตม์ กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวรุตม์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวเหมือนช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ 1,180 จุด แนวต้าน 1,200 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KTB มูลค่าการซื้อขาย 709.14 ล้านบาท ปิดที่ 16.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 662.62 ล้านบาท ปิดที่ 174.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 559.48 ล้านบาท ปิดที่ 329.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 444.23 ล้านบาท ปิดที่ 194.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 425.19 ล้านบาท ปิดที่ 159.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท