นายทัศพล แบเลเว็ลล์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) คาดว่า ผลประกอบการในครึ่งหลังปีนี้ทั้งรายได้และกำไรจะดีกว่าครึ่งแรกของปี เนื่องจากตั้งแต่เดือน ต.ค.55 จนถึง ก.พ.56 จะเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (High season) แม้ว่ายุโรปจะเกิดปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ยังเชื่อว่านักท่องเที่ยวยุโรปจะเดินทางเข้ามาเที่ยวในแถบเอเชียเป็นจำนวนมาก เพราะค่าใข้จ่ายถูกกว่าแหล่งท่องเที่ยวอื่น
ขณะเดียวกันคาดว่าราคาน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะไม่แตกต่างจากช่วงครึ่งปีแรกที่ราคาน้ำมันอากาศยานที่ระดับราคา 120 เหรียญ/บาร์เรล โดยบริษัทมีค่าใช้จ่ายน้ำมันปีละประมาณ 7-8 พันล้านบาท และเชื่อว่าการย้ายไปให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองแทนสุวรรณภูมิในวันที่ 1 ต.ค.นี้จะไม่กระทบกับบริษัทแต่อย่างใด
"คิดว่านักท่องเที่ยวจากยุโรปไม่ได้ลดลง มองว่าเป็นโอกาสมากกว่าเป็นปัญหา ถ้าเรามีเส้นทางหรือจุดบินแปลกๆใหมๆ น่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เยอะ"นายทัศพล กล่าว
ส่วนในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโต 20% จากปีก่อน เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเติบโต 20-25% และมีอัตราส่วนบรรทุก (load factor) ที่ระดับ 83% จากทั้งปีนี้คาดว่าจะมี load factor ที่ระดับ 85-86% ใกล้เคียงปีก่อน
นายทัศพล กล่าวว่า การขยายตัวของธุรกิจในปีนี้มาจากการเพิ่มเครื่องบินใหม่ 6 ลำ โดยรับมอบไปแล้ว 3 ลำ และการขยายเส้นทางบินใหม่ โดยครึ่งปีหลังจะเปิดจุดบินใหม่อีก 3-4 จุด ได้แก่ ในจีน 2 เมือง หลังจากวันนี้ที่เปิดตัวเที่ยวบินใหม่กรุงเทพ -มัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นจุดบินใหม่ที่ 7 ในปีนี้ เริ่มบิน 4 ต.ค.55
ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนแรกคาดว่าอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor)จะอยู่ที่ประมาณ 70-75% และหลังจากนั้นคาดว่าจะเพิ่มเป็น 80-85% โดยสัดส่วนผู้โดยสารต่างชาติอยู่ที่ระดับ 45%
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเปิดจุดใหม่เพิ่มขึ้นในพม่าอีก 2 จุดบินได้แก่ เมืองพุกาม และเมืองเนปิดอว์ ซึ่งต้องรอการพัฒนาสนามบินเสียก่อน รวมทั้งจะเปิดจุดบินใหม่ในย่านอาเซียนที่ไม่ต้องใข้สิทธิการบินให้มากที่สุดก่อนเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในปี 58 ได้แก่ เมืองดานังในเวียดนาม เป็นต้น