บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ(ROJNA)คาดว่ากำไรในช่วงไตรมาส 2/55 จะสูงกว่าไตรมาส 2/54 เนื่องจากบริษัทมีการโอนที่ดินให้กับลูกค้ารายใหญ่ถึง 300 ไร่ และยังมีลูกค้าอีกหลายรายที่รอเซ็นสัญญาซื้อที่ดิน ดังนั้น จึงมีโอกาสที่ยอดขายที่ดินในปีนี้อาจจะทะลุเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1 พันไร่ ซึ่งส่วนใหญ่จะไปเริ่มรับรู้รายได้ในปีหน้า ทำให้ปีนี้รายได้ของบริษัทคงจะทรงตัวหลังจากช่วงต้นปีรับผลกระทบสถานการณ์น้ำท่วมต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้ว
ขณะนี้บริษัทยังมองหาซื้อที่ดินเพิ่ม โดยเฉพาะในพื้นที่โซนตะวันออก หลังจากเปิดการขายที่ดินในนิคมปราจีนบุรีช่วงปลายปีนี้ สำหรับที่ดินที่เหลืออยู่ 800-900 ไร่ในนิคมอุตสาหกรรมอยุธยาจะขายหมดภายใน 2-3 ปี ส่วนที่ดินที่มีอยู่ในกทม.ทั้งที่อ่อนนุชและรัตนาธิเบศน์อยู่ระหว่างรอจังหวะที่เหมาะสมในการขึ้นโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่
นางสาวอมรา เจริญกิจวัฒนกุล กรรมการ ROJNA กล่าวว่า คาดกำไรไตรมาส 2/55 จะสูงกว่าไตรมาส 2/54 ที่ 177 ล้านบาท เนื่องจากมีการโอนที่ดินให้ลูกค้ารายใหญ่ 300 ไร่ในไตรมาส 2 โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ไร่ แต่ถ้าดูจากลูกค้าที่รอเซ็นสัญญาน่าจะเกินไปจากนั้นแล้ว แต่รายได้คงจะไปรับรู้ฯ ในปีหน้า
ส่วนรายได้รวมปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงกับปี 54 ที่ 6.46 พันล้านบาท โดยเป็นการโอนที่ดินจากยอดขายในมือ(backlog)ที่มีอยู่กว่า 700 ไร่ที่มีอยู่จะโอนในปีนี้ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรมอยุธยาที่ค่อยๆ กลับมา หลังต้นปียังได้รับกระทบจากน้ำท่วมอยู่
สำหรับโรงไฟฟ้าในนิคมฯอยุธยาที่ปิดซ่อมจากน้ำท่วมคาดว่าจะกลับมาเดินเครื่องได้ในไตรมาส 4/55 หรือราว พ.ย.นี้ นอกจากนี้ยังมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่อีก 110 เมกะวัตต์ซึ่งเป็นไปตามแผนคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ปี 56 เป็นต้นไป ส่วนโครงการโซล่าฟาร์ม 24 เมกะวัตต์คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างแท่นปลายปี 55 แต่ช่วงนี้รอดูสถานการณ์น้ำท่วมหรือเปล่า ถ้าน้ำไม่ท่วมก็เริ่มก่อสร้างต้นปี 56 และเสร็จปลายปี 56
นายจิระพงษ์ วินิชบุตร กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ที่ดินในนิคมฯอยุธยายังมีพื้นที่ขายอีก 800-900 ไร่ คาดว่าจะขายได้หมดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ส่วนที่ดินในนิคมฯปราจีนที่เพิ่งซื้อเข้ามาราว 3,000 กว่าไร่ ขณะนี้มีลูกค้าสนใจจำนวนมาก และมีการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ 3-4 รายแล้ว คาดว่าจะทำพรีเซลล์ได้ในไตรมาส 4/55 ระหว่างนี้ก็จะทำการพัฒนาไปเรื่อยๆ คาดใช้เวลา 1 ปีในการพัฒนาสาธารณูปโภคต่าง ๆ และจะเริ่มโอนที่ดินให้ลูกค้าได้ในปี 56 โดยรายได้จากการขายที่ดินนิคมฯปราจีนจะเริ่มเข้าปี 56