(เพิ่มเติม) BCP ลดเป้า EBITDA ปี 55เหลือ 6.8 พันลบ.จากเดิม 7.3พันลบ.หลังเหตุไฟไหม้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 8, 2012 14:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) ปรับลดเป้าหมายกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย(EBITDA)ในปีนี้ลงเหลือ 6.8 พันล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 7.3 พันล้านบาท หลังเกิดเหตุไฟไหม้หอกลั่นน้ำมัน ทำให้กระทบกับกำลังการกลั่นที่ปรับลดลงในช่วงปิดซ่อมแซม แต่ก็คาดว่ากำลังการกลั่นจะกลับมาสู่ระดับปกติตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ต.ค.55 ในระดับ 1.1 แสนบาร์เรล/วัน และบริษทยังมีแผนจะลงทุนขยายกำลังการกลั่นเป็น 1.4 แสนบาร์เรล/วันในช่วง 3 ปีข้างหน้า

"EBITDA ปีนี้ลดลงไป 500 ล้านบาทจากเป้าหมายเดิม ก็ไม่เยอะ ครึ่งปีแรกเราทำได้ 3.5 พันล้านบาท เพราะกำลังการผลิตหายไปจากเหตุการณ์ไฟไหม้ ทำให้เสียโอกาส โดย 60 วันแรกเราไม่ได้เงินประกัน แต่ถ้าเรากลับมาเดินเครื่องก็คิดว่าทำได้ตามเป้าหมาย"นายอนุสรณ์ กล่าว

บริษัทตั้งเป้าหมาย EBITDA ในปี 56 ไว้ที่ 9 พันล้านบาท ภายใต้กำลังการกลั่นเต็มที่ 1.1 แสนบาร์เรล/วัน เพราะไม่มีแผนปิดซ่อมบำรุงประจำปี ขณะที่บริษัทจะมี EBITDA จากธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 3 แห่ง จำนวน 1,500 ล้านบาท จากในปีนี้มีจำนวน 400 ล้านบาทจากโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 1 แห่งที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

บริษัทคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีผลกำไรจากสต็อกน้ำมัน(stock gain)เข้ามาชดเชยผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน(stock loss)ที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2/55 ได้ทั้งหมดจำนวน 1.7 พันล้านบาท มองว่าสิ้นปี 55 ราคาน้ำมันดิบดูไบจะขยับขึ้นมาที่ 106 เหรียญฯ/บาร์เรล จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 103 เหรียญฯ/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบดูไบต่ำสุดในไตรมาส 2/55 ที่ระดับ 89.10 เหรียญฯ/บาร์เรล

และ บริษัทคาดว่าค่าการกลั่นในช่วงไตรมาส 3/55 น่าจะสูงขึ้นมาถึง 9-10 เหรียญฯ/บาร์เรลเนื่องจากเป็นช่วงปิดซ่อมแซมหน่วยกลั่นบางส่วน ทำให้กำลังการกลั่นลดเหลือที่ระดับ 4.5 หมื่นบาร์เรล/วัน บริษัทจึงต้องเลือกกลั่นน้ำมันประเภทที่ได้ค่าการกลั่นสูงเป็นหลัก และไตรมาส 4/55 จะกลับมาที่ระดับ 6-7 เหรียญฯ/บาร์เรล เมื่อกำลังการกลั่นกลับสู่ปกติที่ 1.1 แสนบาร์เรล/วัน คาดว่ากลางเดือนต.ค.นี้จะเริ่มเดินเครื่องได้หลังซ่อมหอกลั่นแล้ว

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า BCP ได้ลงทุนเพิ่มเพื่อขยายกำลังการกลั่นเป็น 1.4 แสนบาร์เรล/วันใช้เงินลงทุนประมาณ 1 พันล้านบาทในการปรับปรุงหอกลั่นใหม่ คาดว่าจะสร้างเสร็จภายใน 3 ปี พร้อม ๆ กับโครงการ Efficiency, Energy and Environment improvement Project (3E) ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่การเป็นโรงกลั่น 5 ดาวในเฟสแรกที่จะแล้วเสร็จในปี 58 ใช้เงินลงทุน 4 พันล้านบาท รวม 2 โครงการนี้จะใช้เงินไม่เกิน 5 พันล้านบาท

ดังนั้น คาดว่าหลังจากปี 58 บริษัทจะมี EBITDA พุ่งขึ้นมาเป็น 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท โดยปี 56 ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 9 พันล้านบาท, ปี 57 คาดอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท และปี 58 อยู่ที่ 1.25 หมื่นล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ