นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่มากระตุ้นการลงทุน ซึ่งแตกต่างจากวันก่อนๆ ทั้งนี้อาจจะเป็นบวกได้แต่คงไม่มากนัก สำหรับกรณีธนาคารกลางอังกฤษปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 มองว่าไม่ได้มีผลใดต่อตลาดบ้านเรา
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เคลื่อนไหวบวกลบในกรอบแคบ น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นไทย
พร้อมให้กรอบดัชนีเช้านี้ที่ 1,210-1,220 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(8 ส.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,175.64 จุด เพิ่มขึ้น 7.04 จุด(+0.05%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,400.22 จุด เพิ่มขึ้น 0.87 จุด(+0.06%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,011.25 จุด ปรับลง 4.61 จุด (-0.15%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดวันนี้ นิกเกอิญี่ปุ่น ลดลง 10.35 จุด ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 83.68 จุด เวทเต็ดไต้หวัน เพิ่มขึ้น 22.07 จุด คอมโพสิตเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.90 จุด FBMKLCI มาเลเซีย ลดลง 0.25 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 4.40 จุด และ FTSE STI สิงคโปร์ปิดทำการ
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(8 ส.ค.)ที่ระดับ 1,214.13 จุด เพิ่มขึ้น 5.94 จุด(+0.49%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,665.51 ล้านบาทเมื่อ 8 ส.ค.55
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 93.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.32 ดอลลาร์หรือ 0.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(8 ส.ค.)ปิดทำการที่ 11.11 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 31.46/48 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
- "วีรพงษ์" จี้ ธปท.เลิกกำหนดนโยบายเงินเฟ้อเป้าหมาย ชี้ไม่เหมาะกับเศรษฐกิจไทย แนะใช้อัตราแลกเปลี่ยนดันจีดีพีโต อ้างไอเอ็มเอฟเห็นพ้อง เผยเงินทุนเคลื่อนย้ายปัจจัยเสี่ยงชาติกำลังพัฒนา ระบุเงินออมท่วมประเทศ กระตุ้นรัฐลงทุนเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจระยะยาว ด้าน"กิตติรัตน์"ส่งสัญญาณต้องการเห็นดอกเบี้ย 2.5%
- ตลาดหลักทรัพย์เตือนครึ่งปีหลัง "หุ้น- ค่าเงิน" ผันผวนหนัก ชี้เงินทุนต่างชาติอ่อนไหวจากปัญหาหนี้ยุโรปและการเมืองต่างประเทศ หวั่นกระทบนักลงทุนระยะสั้นไม่ได้ผลตอบแทนตามคาด เชื่อหากลงทุนยาวผลตอบแทนยังดี เผย 7 เดือนเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าหุ้น-ตราสารหนี้กว่า 7 แสนล้านบาท
- พาณิชย์ชี้มีโกดังขยายเก็บข้าวได้กว่า 10 ล้านตัน ยันไม่เร่งขายสต๊อกรัฐ 8 ล้านตัน ครึ่งปีระบายไป 7 แสนตัน พ่อค้ายี้ทีโออาร์ กดซื้อต่ำ 500 เหรียญฯ,"ปชป."แฉ! พบอื้อข้าว"เขมร-ลาวพม่า"มั่วสวมสิทธิ บี้"นายกฯ-บุญทรง-กิตติรัตน์"รับผิดชอบ พร้อมซัด"บุญทรง"มึนไม่รู้จักคำว่าสวมสิทธิ จวก"เฉลิม"เชื่องช้าเพิ่งตั้งกรรมการสอบทุจริต เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบประเดิมอยุธยาที่แรก
- ศาลอาญาพร้อมวินิจฉัยคดี ตร.งัดกรกฎ52คุมม็อบแดง นปช.โวนัดชุมนุมเป็นหมื่น แม้วโผล่สหรัฐเจอมือตบไล่ ตำรวจนครบาลพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม.ได้ทยอยเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ ดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเย็นวันที่ 8 สิงหาคม เพื่อเตรียมพร้อมต่อการที่ศาลอาญาจะไต่สวนวินิจฉัยการถอนประกันตัว 24 จำเลยคดีก่อการร้ายแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่จะมีขึ้นในเช้าวันที่ 9 สิงหาคมนี้ โดยคาดว่าจะมีคนเสื้อแดงจำนวนมากมาฟังคำวินิจฉัยดังกล่าว
- โผทหารปี 55 ใกล้คลอด "บิ๊กโอ๋"สั่งทุกเหล่าทัพส่งรายชื่อโยกย้ายนายทหารภายใน 15 ส.ค.นี้ เน้นอาวุโส-ความสามารถ ด้านตำแหน่งปลัดกลาโหม "ทนงศักดิ์" มาแรง "พล.อ.อ.ประจิน" ขยับจากผู้ช่วย ผบ.ทอ.นั่งเก้าอี้ ผบ.ทอ.คนใหม่ ขณะที่ "ประยุทธ์" ปรับไลน์5 เสือ ทบ.ดันรองเสธ.ทบ.นั่งเก้าอี้เสธ.ทบ.เต็มตัวขยับ"มทภ.1-ผบ.นปอ."ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ทบ.
*หุ้นเด่นวันนี้
- STEC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 16.10 บาท รายได้ 2Q55 ที่ 4,399 ล้านบาท (+16% YoY และ +3% QoQ) และกำไรสุทธิ 266 ล้านบาท (+21% YoY แต่ลดลง -12% QoQ)คงประมาณการปีนี้รายได้และกำไรโต 17.8% YoY และ 5.3% YoY มุมมองเป็นบวก Backlog แข็งแกร่งบวกโอกาสได้งานใหม่เพิ่ม
- SF(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 9.50 บาท กำไรงวด Q2/55 ดีกว่าคาด 21% เพิ่มขึ้น 21% YoY แต่ลดลง 87% คาดว่าความร่วมมือระหว่างบริษัทกับพันธมิตรลงทุนโครงการขนาดใหญ่ เมกา สาขา 2 อีกครั้งปลายปีนี้ความชัดเจนมากขึ้น,บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาโครงการใหม่อีก 1 แห่ง พื้นที่ให้เช่าประมาณ 10,000 ตารางเมตร คาดชัดเจนมากขึ้นในงวด 2H55
- BCP(ฟิลลิป)"ทยอยซื้อ"เป้า 25.25 บาท คาด 3Q55 บริษัทกลับมามีกำไร จากค่าการกลั่นที่คาดว่าจะเป็นงวดสูงสุดของปี และกำไรสต็อคน้ำมัน รักษาการเติบโตที่ดีได้จากแผนการลงทุนในโรงกลั่นเพิ่มค่าการกลั่น และรายได้โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์
- PTTGC(เคทีบี)"ซื้อ"เป้า 81.50 บาท ผลงานไตรมาส 2 ออกมาสูงกว่าคาด คงมุมมองเป็นบวกระยะ 6 เดือนจากนี้ เชื่อส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์จะค่อยๆปรับตัวกว้างขึ้นและราคาของผลิตภัณฑ์จะสูงขึ้นสอดคล้องกับทิศทางราคาน้ำมัน