บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร (DRT) มั่นใจว่า ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก คาดยอดขายในปีนี้จะเติบโตอยู่ในระดับ 10% ได้ตามเป้า ตามภาพรวมตลาดวัสุดก่อสร้างกลับมาดีขึ้น และบริษัทได้เพิ่มสายการผลิตไม้สังเคราะห์ NT-10 ที่ช่วยหนุนยอดขายบริษัท รวมทั้งการขยายตลาดไปพม่าเพิ่มขึ้น
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างครึ่งปีหลัง เชื่อว่า จะกลับมาคึกคักมากขึ้น หากไม่มีปัจจัยลบ เนื่องจากภาครัฐมีนโยบายลงทุนระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นตลาด ขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้าโครงการได้ลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้น มีผลทำให้ความต้องการสินค้ากลุ่มกระเบื้องหลังคาและกลุ่มไม้สังเคราะห์มีความต้องการมากขึ้น
แผนงานจากนี้ตราเพชรจะเร่งเสริมศักยภาพการทำตลาด โดยใช้สายการผลิตไม้สังเคราะห์ NT-10 เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันยอดขาย ด้วยกำลังการผลิต 7.2 หมื่นตัน ซึ่งได้เริ่มเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ไปแล้วเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยจะเป็นแรงขับเคลื่อนในการสร้างโอกาสการขายสินค้าผ่านช่องทางขายร้านค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ตราเพชรยังจะขยายมูลค่าการส่งออกไปยังประเทศพม่าให้มากขึ้น เนื่องจากได้เข้าไปทำตลาดมานานกว่า 10 ปี โดยมีความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นอย่างดี
"จากแผนงานทั้งหมดนี้จึงมั่นใจว่า ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปีนี้ ที่คาดว่าจะสร้างอัตราการเติบโตของยอดขายให้อยู่ในระดับ 10% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้"นายสาธิต กล่าว
นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ DRT กล่าวว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน 2555) ว่า บริษัทฯ สามารถทำยอดขายและกำไร ซึ่งเป็นสถิติใหม่ของผลิตภัณฑ์ตราเพชร โดยมีรายได้ 2,062.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 167.32 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 8.83% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 1,895.47 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 333.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 259.73 ล้านบาท
ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าว มาจากปัจจัยการดำเนินกลยุทธ์การตลาดภายใต้กลยุทธ์ Everything in One ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลายทั้งผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ ไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด พื้นไม้ลามิเนต แผ่นบอร์ด ยิปซัม และบริการหลังการขาย รวมถึงการพัฒนาสินค้าด้วยการวางจำหน่ายกระเบื้องจตุลอน ช่วยเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันในการทำตลาด ผ่านช่องทางร้านค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ปัจจุบันมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตราเพชรมีโอกาสนำเสนอสินค้าไปสู่ผู้บริโภคเพื่อสร้างโอกาสการขายสินค้า รองรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสนใจเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวมากขึ้น