หุ้น BTS ราคาไหลลง 1.49% มาอยู่ที่ 5.30 บาท ลดลง 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 67.60 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.05 น. โดยเปิดตลาดที่ 5.40 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 5.40 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.30 บาท
วานนี้(9 ส.ค.)BTS ปิดที่ 0.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท(+1.18%)โดยยังใช้พาร์เก่าที่ 0.64 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ทยอยสะสม"หุ้น บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์(BTS) ราคาเหมาะสม 6.00 บาท โดย BTS จะเริ่มซื้อขายบนพาร์ใหม่ในวันนี้ จากเดิม 0.64 บาท เป็น 4.00 บาท ส่งผลให้จำนวนหุ้นทั้งหมดลดลง ขณะที่ทางทฤษฎีแล้วราคาต่อหุ้นจะเพิ่มขึ้น 6.25 เท่าเช่นกัน โดยหากอิงราคาปิดวานนี้ที่ 0.86 บาท จะเทียบเท่าราคาบนพาร์ใหม่ที่ 5.38 บาท และคาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกทางจิตวิทยา เนื่องจากจำนวนหุ้นที่ลดลงจะส่งผลให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อทุกธุรกิจของ BTS ที่จะสอดประสานกัน เพื่อผลักดันการเติบโตของกำไร ได้แก่ ธุรกิจเดินรถไฟฟ้ามีจุดเด่นที่การเติบโนในระยะยาวอย่างมั่นคง ภายใต้สัญญาสัมปทานกับกทม.
ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการ The Abstact สุขุมวิท 66/1 ล็อตสุดท้ายจำนวน 160 ล้านบาทได้ในปีนี้ และ The Abstact พหลโยธิน มียอด Presales ขยับขึ้นเป็น 54% และมีกำหนดโอน 150 ยูนิตแรก ตั้งแต่ ก.ย. 2555 เป็นต้นไป
และธุรกิจโฆษณา เป็นธุรกิจที่มี Margin ในระดับสูงถึงเกือบ 60% และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะเป็นสื่อที่เข้าถึงลูกค้าเฉพาะกลุ่ม และแผนการนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนใน ตลท. จะช่วยปลอดล็อก Asset Value ได้ในอนาคต
ดังนั้น คาดว่ากำไรปกติปี 2555/56 จะขยายตัวสูงถึง +70% yoy เป็น 1,622 ล้านบาท และต่อเนื่องอีก +60% yoy ในปี 2556/2557 เป็น 2,599 ล้านบาท อีกทั้งยังมี Upside Risk ที่ยังไม่รวมอยู่ในประมาณการ เช่น โปรเจ็คต์ใหม่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่คาดจะส่งผลบวกต่อการเติบโตของกำไรในระยะยาว