PS คาดปี 55 กำไรทุบสถิติเดิมปี 52 ทำได้ 3.6 พันลบ.,นิวไฮต่อเนื่องปี 56

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 10, 2012 13:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตท(PS)กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าในปี 55 นี้จะทำกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากสถิติเดิมในปี 52 เคยทำกำไรสูงสุดที่ 3,600 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งแรกของปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 1,635 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 3/55 และไตรมาส 4/55 จะยังทำกำไรเติบโตต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าครึ่งหลังขอองปีนี้จะมีรายได้ที่ 15,000 ล้านบาท สูงกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 11,500 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าทั้งปีจะสามารถทำรายได้ตามเป้าหมายที่ 26,000 ล้านบาท โดยสิ้นไตรมาส 2/55 บริษัทมียอดขายรอโอน(backlog)ที่จะทยอยรับรู้รายได้ประมาณ 16,800 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิช่วงครึ่งปีหลังจะสูงขึ้นมามากกว่า 15% จากที่อยู่ในระดับ 14% ในครึ่งปีแรก

บริษัทยังเชื่อว่าในปี 56 มีโอกาสจะทำกำไรสุทธิสูงสุดต่อเนื่องจากปี 55 เนื่องจากมี backlog คอนโดมิเนียมที่รอโอนและรับรู้รายได้ในปีหน้าแล้วเกือบ 9,000 ล้านบาท ซึ่งเป็น backlog ที่มีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 18.3% และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 40%

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายการเปิดโครงการใหม่เหลือ 35-40 โครงการ จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 49 โครงการ เนื่องจากครึ่งปีแรกเปิดโครงการใหม่ได้เพียง 14 โครงการ ส่วนครึ่งปีหลังมีแผนเปิด 21-26 โครงการ ซึ่งการลดจำนวนโครงการใหม่ไม่ได้กระทบเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้ โดยในเดือน ก.ค.บริษัทมียอดรับรู้รายได้แล้วถึง 4,000 ล้านบาท ทำให้คาดว่ารายได้ในไตรมาส 3/55 จะเป็นไปตามเป้าที่ 7,500 ล้านบาท

นายประเสิรฐ กล่าวว่า ในเดือน ก.ย.55 บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้ วงเงิน 5,000 ล้านบาทเพื่อนำมาชำระหนี้เงินกู้ ขณะที่จัดเตรียมงบลงทุนเพื่อซื้อที่ดินใหม่ในช่วงปี 55-56 วงเงิน 12,000 ล้านบาททั้งที่ดินในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด แบ่งเป็นปีนี้จะใช้เงินลงทุนราว 6,000 ล้านบาท ซึ่งได้ซื้อที่ดินไปแล้ว 1,300-1,400 ล้านบาท ส่วนปีหน้าอีก 6,000 ล้านบาท

ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทเตรียมซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก 1 แปลงในประเทศอินเดีย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อนำที่ดินมาใช้พัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยว คาดเริ่มขายได้ในช่วงต้นปี 56 ส่วนที่เวียดนาม บริษัทคาดว่าจะเปิดตัวโครงการทาวน์เฮ้าส์ภายในปลายปีนี้ หรือต้นปี 56 ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีที่เงินเฟ้อในเวียดนามลดลงและอัตราแลกเปลี่ยนเงินดองเริ่มทรงตัว

นายประเสริฐ กล่าวว่า ปัจจัยที่บริษัทยังมีความกังวลในขณะนี้ คือ เสถียรภาพทางการเมือง และปัญหาเศรษฐกิจยุโรป หากลุกลามจะกระทบการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค และรอดูสถานการณ์น้ำท่วมในปลายปีนี้ ซึ่งหวังว่าแผนป้องกันน้ำท่วมของรัฐบาลจะใช้ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ