SUPER ร่วงติดฟลอร์ 29.31% รายใหญ่ขายทิ้งหลังผิดหวังงบฯ Q2/55 ยังขาดทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 10, 2012 15:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น SUPER ร่วงติดเพดานฟลอร์ 29.31% มาอยู่ที่ 0.82 บาท ลดลง 0.34 บาท มูลค่าซื้อขาย 54.71 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.03 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.95 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.02 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.82 บาท

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)กล่าวว่า ราคาหุ้นบมจ.ซุปเปอร์บล๊อก(SUPER)วันนี้ปรับตัวลงติดฟลอร์ เนื่องจากผิดหวังกับผลประกอบการงวดไตรมาส 2/55 ที่ออกมายังขาดทุน จากเดิมที่ตลาดฯคาดหวังไว้ว่าจะพลิกเป็นกำไรได้และเป็นประเด็นที่เล่นเก็งกำไรกันในช่วงก่อนหน้านี้จนระดับราคาหุ้นขึ้นมามาก จากเดิมเคยอยู่แถว 0.70 บาท ขึ้นมาถึง 1 บาทกว่า

"หุ้น SUPER คนจะมองเป็นหุ้นเก็งกำไร ดังนั้นเมื่อผิดหวังกับงบฯที่ออกมาว่ายังขาดทุนอยู่ ก็เลยมีแรงขายกันออกมา โดยไม่ได้มองหรอกว่าจะขาดทุนน้อยลง แต่เขามองแค่ว่ามันยังขาดทุนอยู่ รายใหญ่ก็เลยขาย"นายภาดล กล่าว

พร้อมให้แนวรับ 0.80, 0.72 บาท แนวต้าน 0.85 บาท

SUPER และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/55 ขาดทุนสุทธิ 7.43 แสนบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.001 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 40.5 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.09 บาท

พร้อมชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2555 บริษัทขาดทุนสุทธิจำนวน 0.74 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2554 ที่ขาดทุนสุทธิจำนวน 40.50 ล้านบาท โดยขาดทุนสุทธิไตรมาสที่ 2 ปี 2555 ลดลงจากไตรมาสที่ 2 ปี 2554 จำนวน 39.76 ล้านบาท หรือลดลงในอัตราร้อยละ 98.17

เนื่องจากสาเหตุสำคัญดังนี้ รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น โดยไตรมาสที่ 2 ปี 2555 บริษัทมีรายได้จากการขาย 83.12 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2554 ที่มีรายได้จากการขาย 67.19 ล้านบาท โดยรายได้จากการขายไตรมาสที่ 2 ปี 2555 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ปี 2554 จำนวน 15.93 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 23.71 เนื่องจากปริมาณการขายคอนกรีตมวลเบาของบริษัทเพิ่มขึ้นและมีการปรับราคาขายที่สูงขึ้น

ด้านต้นทุนทางการเงินลดลง โดยไตรมาสที่ 2 ปี 2555 บริษัทมีต้นทุนทางการเงิน 5.26 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2554 ที่มีต้นทุนทางการเงิน 26.38 ล้านบาท โดยต้นทุนทางการเงินไตรมาสที่ 2 ปี 2555 ลดลงจากไตรมาสที่ 2 ปี 2554 จำนวน 21.12 ล้านบาท หรือลดลงในอัตราร้อยละ 80.06 เนื่องจากบริษัทได้ลงนามในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินแล้ว อัตราดอกเบี้ยจึงเป็นอัตราดอกเบี้ยปกติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ