THCOM คาดกำไรครึ่งปีหลังโตต่อหลังQ2โตมาก,ขายแบนด์วิธไทยคม6 ได้ 18%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 13, 2012 13:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม (THCOM) กล่าววว่า บริษัทได้ขายช่องสัญญาณบนดาวเทียม(แบนด์วิธ)ไทยคม 6 ได้แล้วถึงร้อยละ 18 และในปี 2556 บริษัทฯมีแผนที่จะส่งดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นสู่วงโคจร เพื่อตอกย้ำความเป็นดาวเทียม Hotbird ที่ตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออกอีกครั้ง จากที่เคยทำสำเร็จมาแล้วจากดาวเทียมไทยคม 5 และขณะนี้บริษัทฯสามารถปิดการขายล่วงหน้าดาวเทียมไทยคม 5 แล้ว

การขยายตัวของรายได้ในธุรกิจดาวเทียมในครึ่งปีแรกนี้ เกิดจากการเติบโตของผู้ประกอบการทางด้านทีวีที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการเช่าช่องสัญญาณเพื่อการออกอากาศโทรทัศน์บนดาวเทียมไทยคม 5 รวมทั้งการที่บริษัทฯได้เปิดให้บริการลูกค้าไอพีสตาร์ในรูปแบบการให้บริการครบวงจร (End-to-end solutions) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้งานบนดาวเทียมไอพีสตาร์มากขึ้น

THCOM ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่สองของปี 2555 มีกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานในงบรวมสูงถึง 198 ล้านบาท ดีดตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 182 เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของ ปี 2554 ยิ่งไปกว่านั้น ผลกำไรส่วนใหญ่มาจากธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจดาวเทียม ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.5 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยรายได้จากธุรกิจดาวเทียม เพิ่มขึ้นจาก 2.6 พันล้านบาท เป็น 3.6 พันล้านบาท

นับเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ที่บริษัทสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่องกันถึงสี่ไตรมาส เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของไทยคมแสดงให้เห็นถึงพื้นฐานความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจที่แข็งแกร่ง

"การประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทฯ แสดงให้เห็นถึงทิศทางการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ นับตั้งแต่ไตรมาสที่สามของปี 2554 ที่ผ่านมา และบริษัทฯพยายามที่จะผลักดันให้ทิศทางการเติบโต เป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2555 ซึ่งรายได้จากธุรกิจดาวเทียมซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯเป็นรายได้หลักถึงร้อยละ 80 ของรายได้รวม แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นที่น่าพอใจ"นางศุภจีกล่าว

บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ในการทำการตลาดดาวเทียมไอพีสตาร์ใหม่ จากการเน้นการขายอุปกรณ์ผู้ใช้ปลายทาง (User Terminal) มาเน้นการขายช่องสัญญาณและการให้บริการแบบครบวงจร ซึ่งบริษัทฯมั่นใจว่ากลยุทธ์ใหม่นี้จะสามารถเปิดกว้างให้บริษัทฯสร้างความร่วมมือกับผู้ผลิตอุปกรณ์และช่วยกันขยายตลาดเพื่อเพิ่มการใช้งานช่องสัญญาณบนดาวเทียมไอพีสตาร์ได้เพิ่มมากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น การที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช) ได้อนุมัติใบอนุญาตให้บริษัทฯประกอบกิจการดาวเทียมไทยคม 7 เป็นระยะเวลา 20 ปี โดยการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมอื่นเป็นรายปี รวมร้อยละ 5.75 จากรายได้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถลดภาระต้นทุนในการบริหารจัดการดาวเทียมดวงใหม่ และเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทฯในการที่จะพัฒนาแอพลิเคชั่นใหม่ๆในการใช้งานดาวเทียม เพื่อรองรับการขยายตัวทางด้านโทรคมนาคมภายในประเทศและต่างประเทศ บริษัทฯจะใช้โอกาสจากการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในการทำธุรกิจและการขยายตลาดออกไปอย่างกว้างขวาง นับเป็นการเปิดศักราชใหม่สำหรับไทยคม ดาวเทียมแห่งชาติอย่างแท้จริง ทั้งนี้ บริษัทฯมีแผนที่จะส่งดาวเทียมไทยคม 7 ขึ้นสู่วงโคจร ในปี 2557 ในส่วนของธุรกิจอินเตอร์เน็ตและสื่อ บริษัท ดีทีวี เซอร์วิส จำกัด สามารถสร้างฐานตลาดจานให้กับทีวีดาวเทียมได้เพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้มียอดลูกค้าที่อยู่ในระบบจานเหลือง DTV ทั้งสิ้น 1.3 ล้านจาน

นางศุภจี กล่าวว่า ตลาดทีวีดาวเทียมในประเทศเติบโตรวดเร็วมาก จากการเปิดตัว HDTV Box ของ DTV เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้สร้างปรากฏการณ์ HDTV ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ทำให้ผู้ประกอบการหลักๆในอุตสาหกรรมบันเทิงในประเทศหันมาลงทุนให้บริการโทรทัศน์ในระบบ HD และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการรายใหม่ๆเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งในที่สุดจะเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจหลักของบริษัท คือธุรกิจดาวเทียมเป็นอย่างมาก

สำหรับ บมจ. ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL) มีรายได้จากการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นถึง 100 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการเติบโตทางธุรกิจที่สดใสทางด้านโมบายล์ คอนเทนต์และธุรกิจไอซีที รวมทั้งการให้บริการระบบ Cloud Computing

ในส่วนของธุรกิจโทรศัพท์ในต่างประเทศ บริษัทลาวโทรคมนาคม มีรายได้เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่สอง เล็กน้อย เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่สามารถแย่งชิงสัดส่วนในการครองตลาดเพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 43 เป็นร้อยละ 46 จากไตรมาสก่อน นับเป็นสัญญาณของการฟื้นตัวที่ดี สำหรับธุรกิจโทรศัพท์มือถือในกัมพูชา ผลการดำเนินงานปรับตัวลดลงไม่มากนัก เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าบริษัทฯจะยังสามารถรักษาสถานภาพของธุรกิจไว้ได้ ท่ามกลางกระแสการแข่งขันอันรุนแรงสำหรับตลาดขนาดเล็กที่มีจำนวนผู้ใช้บริการเพียงประมาณ 3 ล้านราย แต่มีจำนวนผู้ให้บริการมากถึง 8 ราย บริษัทฯคาดว่าจะสามารถคลี่คลายปัญหาการขาดทุนของธุรกิจนี้ได้ภายในปีนี้ โดยจะพยายามให้มีผลกระทบต่องบรวมของบริษัทฯน้อยที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ