นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ(EARTH) มั่นใจว่า ทางเดินข้างหน้ายังสดใสต่อไป แม้ราคาขายถ่านหินในตลาดโลกจะแกว่งตัว เนื่องจาก EARTH มีเหมืองถ่านหินเป็นของบริษัทฯเอง ผนวกกับการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพและพร้อมรับมือต่อทุกสถานการณ์ เชื่อว่ายอดขายถ่านหินปีนี้จะทะลุ 3.2 ล้านตัน
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/55 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2555 ปรากฎว่ามีกำไรสุทธิ 364.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 271.40 ล้านบาท จากไตรมาส 2/54 ที่มีกำไรสุทธิ 93.23 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นถึง 291.11% ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 627.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 471.67 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 155.65 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นถึง 303.03%
สาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิของ EARTH เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ เนื่องจากบริษัทสามารถจำหน่ายถ่านหินได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2/55 มีปริมาณการจำหน่ายถ่านหินรวม 1.13 ล้านตัน และครึ่งปีแรกมีปริมาณการจำหน่ายถ่านหินรวม 1.93 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.11 ล้านตัน หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 134.78% เมื่อเปรียบเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ทำให้รายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 4,361.00 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้รวม 1,965.77 ล้านบาท
ขณะเดียวกันอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) ก็ได้ขยายตัวโดยขยับขึ้นมาแตะที่ระดับ 22.18% จากเดิมซึ่งทำเฉพาะธุรกิจเทรดดิ้งจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 16.79% แต่ปัจจุบัน EARTH เปลี่ยนสถานะเป็นเจ้าของเหมืองแล้ว ไม่ใช่เพียงธุรกิจเทรดดิ้งซื้อมาขายไป
“ค่าเฉลี่ยของราคาขายถ่านหินในไตรมาส 2/2555 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้มีการปรับตัวลงเล็กน้อย แต่ประเด็นดังกล่าวส่งผลกระทบต่อ EARTH เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ EARTH สามารถขุดถ่านหินจากเหมืองของบริษัทฯ ที่ตั้งอยู่ในอินโดนีเซียออกมาขายได้แล้ว ซึ่งเป็นเหมืองที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 2554 ที่ผ่านมา จึงทำให้ EARTH มีต้นทุนถ่านหินคงที่ และในไตรมาสนี้สัดส่วนการจำหน่ายถ่านหินที่มาจากเหมืองคิดเป็น 60% ของรายได้รวม และส่วนที่เหลือมาจากการเทรดดิ้ง ลูกค้าของบริษัทมีทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมมากกว่า 100 ราย ซึ่งยังมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย อันถือเป็นสัญญาณบวกต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต"นายขจรพงศ์ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ในขั้นตอนศึกษาเหมืองถ่านหินแห่งใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย และในปีหน้าบริษัทได้วางแผนว่าจ้างผู้บริหารมืออาชีพจากต่างประเทศเข้ามาเสริมทีมงานเตรียมพร้อมการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเชียน (AEC) ในปี 2015 เพื่อวางแผนกลยุทธ์ด้านการผลิต การขนส่ง และการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้บริษัทฯ เติบโตและก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง