(เพิ่มเติม1) RATCH เตรียมลงทุนอีก 4 พันลบ.ใน H2/55,เน้นเป้าหมายเขมร-พม่า-ออสเตรเลีย

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 14, 2012 15:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งแรกปี 55 บริษัทได้ใช้เงินลงทุนไปแล้ว 3,040 ล้านบาท จากงบลงทุนในปีนี้ที่ตั้งไว้ 7,000 ล้านบาท โดยเป็นการใช้เงินลงทุนเพื่อเพิ่มการลงทุนหุ้น RATCH-Australia Corporation Limited (RAC) เป็น 80% จากเดิมที่ 67.90% ใช้เงินลงทุน 2,660 ล้านบาท ที่เหลือ 380 ล้านบาทเป็นการลงทุนในบริษัทร่วมทุน

ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีเป้าหมายในการรักษาประสิทธิภาพและความสามารถในการสร้างรายได้และกำไร โดยให้ความสำคัญกับการบริหารสินทรัพย์โรงไฟฟ้าที่มีอยู่ทั้งในและต่างประเทศ และบริหารต้นทุนทางการเงินที่เอื้อประโยชน์ต่อศักยภาพการลงทุนของบริษัท

สำหรับการลงทุนใหม่ๆในปีนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่ลงทุนในประเทศกัมพูชา พม่า และออสเตรเลีย และเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมการประมูล IPP ในประเทศรอบใหม่ ส่วนความคืบหน้าการขยายการลงทุนและพัฒนาโครงการต่างๆที่ดำเนินการอยู่แล้ว ได้แก่ โครงการเซเปียน เซน้ำน้อย มีกำหนดจะลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในไตรมาส 3/55, โครงการทุ่งกังหันลมห้วยบงได้ติดตั้งกังหันลมแล้ว 17 ต้น และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 3/55, โครงการโซลาร์เซลล์ 10 โครงการ จากทั้งหมด 11 โครงการ เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)แล้ว

นายนพพล กล่าวว่า ระหว่างนี้บริษัทได้เตรียมพื้นที่ใหม่อย่างน้อย 2 แห่งรองรับการสร้างโรงไฟฟ้าในการประมูล IPP รอบใหม่ รวมทั้งยังมีพื้นที่เดิมของโรงไฟฟ้าราชบุรี ที่จะหมดอายุในปี 2568 หากไม่ได้รับการต่ออายุจะสามารถสร้างได้ 2 โรงๆละ 800-900 เมกะวัตต์

ส่วนการลงทุนในพม่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอความชัดเจนการใช้เชื้อเพลิงในโครงการโรงไฟฟ้าขนาด 4,000 เมกะวัตต์ในนิคมทวาย ที่บริษัทจะเข้าร่วมทุนกับบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเม้นต์ (ITD) นอกจากนี้ RATCH เห็นว่ามีโอกาสเข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ในพม่าเพิ่มเติม โดยเฉพาะในเมืองย่างกุ้งที่มีความต้องการไฟฟ้าสูงมาก

ขณะที่การลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ในเกาะกงที่กัมพูชา คาดว่าจะได้ความชัดเจนในปี 56 โดยเฉพาะขนาดกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้า จากกรอบ 1,800 เมกะวัตต์ ซึ่งจะต้องงศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ความต้องการใช้ไฟฟ้าในกัมพูชา โดยเฉพาะในพนมเปญ จากนั้นจะเปิดประมูลงานก่อสร้างได้ โดยเบื้องต้นจะเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน และคาดว่าใช้เวลาสร้างโรงไฟฟ้า 5-6 ปี

ในเวลาเดียวกันบริษัทสนใจเข้าลงทุนเพิ่มในหุ้นบริษัท EDL-Gen ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้น สปป.ลาว เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่บริษัทถือหุ้นใหญ่สุดสัดส่วน 10.11% ส่วนการลงทุนเหมืองถ่านหินบริษัทยังมองที่ออสเตรเลียและอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาถ่านหินลดลง แต่ราคาเหมืองยังไม่ปรับลงตาม จึงต้องวิเคราะห์แนวโน้มราคาในอนาคตเสียก่อนเพื่อให้คุ้มค่ากับการลงทุน

“เรารับรู้รายได้จาก RAC ในงวดนี้ประมาณ 2,250 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างการลงทุนในโรงไฟฟ้า Loy Yang A และโรงไฟฟ้า Collinsville รวมทั้งรายรับจากการลงทุนใน RAC และยังรับรู้เงินปันผลจาก EDL-Gen จำนวน 106 ล้านบาท สำหรับช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะรักษาประสิทธิภาพและความสามารถในการสร้างรายได้และกำไร ด้วยการให้ความสำคัญกับการบริหารสินทรัพย์โรงไฟฟ้าที่มีอยู่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริหารต้นทุนทางการเงินที่เอื้อประโยชน์ต่อศักยภาพการลงทุนของบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ยังอยู่ในระดับที่ดี และมีแนวโน้มมั่นคง สำหรับการลงทุนใหม่ ๆ ในปีนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายที่กัมพูชา พม่า และออสเตรเลีย ขณะเดียวกันก็เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมประมูล IPP รอบใหม่ในประเทศด้วย" นายนพพล กล่าว

RATCH ระบุว่าผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปี 55 เติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนประสิทธิภาพและประสิทธิผลกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นเสริมสร้างความมั่นคงด้านรายได้และกำไร ด้วยวิธีการกระจายลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงหลากหลายประเภท การลงทุนผ่านช่องทางตลาดทุน รวมทั้งธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการผลิตไฟฟ้า ซึ่งเสริมให้กระแสเงินสดและสภาพคล่องของบริษัทฯมีความแข็งแกร่งมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถในการขยายธุรกิจทั้งในและนอกประเทศในอนาคตได้เป็นอย่างดี

ครึ่งแรกของปี 55 บริษัทมีกำไรก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ จำนวน 6,813 ล้านบาท และกำไร 4,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแก่ผู้ถือหุ้นในเดือนกันยายน 55 ส่วนไตรมาส 2/55 บริษัทฯ มีรายได้รวม 19,464 ล้านบาท และกำไร 3,297 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 55 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 100,411 ล้านบาท กำลังการผลิตติดตั้ง 5,220 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 1,220 เมกะวัตต์

ด้านนายพีระวัฒน์ พุ่มทอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านวางแผนและพัฒนาธุรกิจ RATCH กล่าวว่า หลังจากที่โรงไฟฟ้า Collinsville ในออสเตรเลียยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ บริษัท Stanwell Corporation Limited ผู้รับซื้อไฟฟ้า บริษัทมองหาแนวทางอื่นไว้ 3 แนวทางได้แก่ การเสนอขายไฟฟ้าในตลาดกลาง หรือ เปลี่ยนโรงไฟฟ้าใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงจากเดิมเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน และ อาจจะสร้างเป็นโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ เพราะมีพื้นที่มากถึงกว่า 200 ไร่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปได้ในไตรมาส 4 ปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ