(เพิ่มเติม) ฟอร์จูน พาร์ทฯ คาดขาย IPO จำนวน 63 ล้านหุ้น ภายใน Q3/55

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 14, 2012 16:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) คาดว่าบริษัทจะสามารถขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป(IPO) จำนวน 63 ล้านหุ้น หลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ภายในไตรมาส 3/55 นี้

บริษัทได้แต่งตั้งให้บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ซึ่งจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปจำนวน 63 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 21.36 ของทุนชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ โดยแบ่งเป็นการเสนอขายให้แก่ประชาชนจำนวน 60 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 20.34 และเสนอขายให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทจำนวน 3 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 1.02

บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ลงทุนขยายโรงงานและคลังสินค้า ซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม คืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ FPI จะนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)หลังจากที่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปจากสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายสมพล กล่าวว่า ในปีนี้คาดกำไรสุทธิจะเติบโตกว่า 100% หลังครึ่งแรกกำไรโตเกือบ 100% โดยครึ่งแรกกำไรอยู่ที่ 62.93 ล้านบาท จากปี 54 ทั้งปีกำไร 63.43 ล้านบาท และครึ่งปีหลังมั่นใจว่ากำไรยังเติบโตดีต่อเนื่อง ตามภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งจะเห็นว่าบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ปีนี้มีผลประกอบการดี ราคาหุ้นดีต่อเนื่องตลอด นอกจากพื้นฐานของบริษัทดีแล้วอุตฯยานยนต์ปีนี้ก็เอื้อส่งเสริมธุรกิจให้บริษัทเป็นอย่างดี ในส่วนของรายได้ปีนี้ตั้งเป้าโต 20% จากปีก่อนที่ 1.3 พันล้านบาท โดยครึ่งแรกทำได้แล้ว 735 ล้านบาท

"กำไรที่เติบโตเกือบ 100% แต่รายได้โตแค่ 20% เป็นเพราะหลังจากที่บริษัทเปลี่ยนน้ำยาชุบมาเป็นของเยอรมันและญี่ปุ่น จากเดิมที่ใช้ของไต้หวัน ทำให้สินค้ามี value add ออร์เดอร์เข้ามาเพิ่มขึ้น ทั้งค่ายรถจีเอ็ม แลนด์โรเวอร์ โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ และวอลโว่"นายสมพล กล่าว

บริษัทเตรียมงบฯสำหรับขยายโรงงานเดิม คลังสินค้าและซื้อเครื่องจักรสำหรับช่วง 2 ปี(ปี 55-56) รวมประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อขยายไลน์การผลิตฉีดพลาสติกอีก 38% ของกำลังการผลิตปัจจุบัน หลังจากปีก่อนขยายไลน์ชุบและพ่นมาแล้ว โดยหลังขยายไลน์ผลิตดังกล่าวจะทำให้รายได้รวมเติบโตได้ปีละ 20% ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า

“จุดเด่นของ FPI คือผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตจากพลาสติกที่ครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบเม่พิมพ์ การฉีดขึ้นรูป ชุบโครเมี่ยม และการพ่นสีรวมทั้งเป็นศูนย์รวมในการจำหน่ายชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ ทั้งชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทน (REM) และชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์ต่างๆ (OEM) ปัจจุบันมีสินค้ามากกว่า 45,000 รายการ จัดจำหน่ายกว่า 110 ประเทศทั่วโลกโดยได้รับการยอมรับเรื่องสินค้ามีคุณภาพมาตรฐานขณะที่ราคาค่อนข้าง Competitive สามารถแข่งขันในตลาดได้ เนื่องจาก FPI มีระบบบริหารจัดการต้นทุนที่ดี”นายสมพล กล่าวในที่สุด

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า FPI เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างมากในอนาคต ตามทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ยังคงมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งFPI ยังถือเป็นผู้นำในธุรกิจชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์พลาสติกทดแทน (REM)สำหรับรถกระบะ 1 ตัน ค่ายญี่ปุ่นติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ที่ได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 110 ประเทศทั่วโลก

ผลประกอบการของ FPI เติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวมจำนวน 955.14 ล้านบาทในปี 52 ก่อนเพิ่มขึ้นเป็น 1,197.44 ล้านบาทในปี 53 และ 1,300.37 ล้านบาทในปี 54 และงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ FPI มีรายได้รวม 735.38 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 35.11 ล้านบาทในปี 2552 และ 26.61 ล้านบาทในปี 53 ก่อนจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดมาอยู่ที่ 63.43 ล้านบาทในปี 54 และงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ FPI มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 62.93 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ