THAI รับ EBITDA ปี 55อาจไม่เป็นไปตามเป้า 6 พันลบ.หลังสรุปผลงาน 6 เดือน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 14, 2012 20:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.การบินไทย(THAI)ระบุว่า ตามที่เคยมีข่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายกำไรก่อนอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีเงินได้ทั้งปี 55 ไว้ที่ 6,000 ล้านบาทนั้น จากผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา 6 เดือนที่ออกมา อาจทำให้ผลประกอบการทั้งปีไม่เป็นไปตามที่คาดไว้

นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI เปิดเผยว่า งบการเงินรวมสำหรับไตรมาส 2/55 และสำหรับงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 55 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 54 ได้รวมงบการเงินของบริษัทย่อยเพิ่มขึ้นอีก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ไทยไฟลท์เทรนนิ่ง จำกัด ประกอบกิจการให้บริการฝึกอบรมบุคลากรด้านการบิน และ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด ซึ่ง THAI ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49

ไตรมาส 2/55 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีผลการดำเนินงานต่ำกว่าไตรมาสแรก โดยในไตรมาสนี้มีผลการดำเนินงานขาดทุนก่อนอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีเงินได้ 2,727 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาสแรกมีกำไรก่อนอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีเงินได้ 3,341 ล้านบาท โดยมีรายได้ลดลง 5,999 ล้านบาท หรือร้อยละ 11 สาเหตุส่วนใหญ่เนื่องจากการส่งเสริมการขายในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (Low Season) ที่มีผู้โดยสารเดินทางน้อย ทำให้ปกติจะมีรายได้ต่ำกว่าไตรมาสแรกประกอบกับยังมีผลจากการจำหน่ายบัตรโดยสารราคาพิเศษในปลายปี 54 เพื่อกระตุ้นให้ผู้โดยสารกลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้นหลังเหตุการณ์มหาอุทกภัย ซึ่งผู้โดยสารสามารถใช้เดินทางได้ถึงเดือนมิถุนายน 55

นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายที่มีการจ่ายในไตรมาสนี้ ซึ่งได้แก่ การปรับขึ้นเงินเดือนประจำปีของพนักงาน ซึ่งจ่ายย้อนหลังตั้งแต่เดือนมกราคม 55 และปรับค่าใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของนักบิน ซึ่งจ่ายย้อนหลังตั้งแต่เดือนมิถุนายน 54

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 54 บริษัทฯ มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารอยู่ในเกณฑ์ดีมากสำหรับช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว แต่ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่เอื้ออำนวย และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถปรับราคาขายเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ถึงแม้บริษัทฯ จะมีการบริหารความเสี่ยงราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และดำเนินการตามมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับผลกระทบจากการปิดซ่อมแซมทางวิ่งของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเดือนมิถุนายน 55 ทำให้เที่ยวบินของบริษัทฯ ล่าช้ากว่ากำหนดและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังขาดทุนเช่นเดียวกับในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวปีก่อนๆ ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หากพิจารณาจากอัตราส่วนกำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงาน (Operating Profit Margin) สำหรับไตรมาส 2 ในรอบ 5 ปีแล้ว จะเห็นได้ว่าบริษัทฯ ขาดทุนในอัตราที่ลดลง โดยไตรมาส 2/55 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 48,506 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2,947 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.5 ค่าใช้จ่ายไม่รวมกำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ มีจำนวนทั้งสิ้น 51,233 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 285 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.6 สาเหตุหลักเนื่องจากค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน และค่าเช่าเครื่องบินและอะไหล่ต่ำกว่าปีก่อน

บริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจำนวน 1,316 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 2,265 ล้านบาท เป็นผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยขาดทุนก่อนอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีเงินได้ 2,727 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ขาดทุนก่อนอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีเงินได้ 5,959 ล้านบาท

ในไตรมาส 2/55 บริษัทฯ และบริษัทย่อยขาดทุนสุทธิ 1,458 ล้านบาท โดยมีผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ จำนวน 1,526 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 0.70 บาท ขาดทุนลดลงจากไตรมาสเดียวกันในปี 54 ซึ่งขาดทุน 7,874 ล้านบาท หรือขาดทุนต่อหุ้น 3.61 บาท และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่าเครื่องบินและอะไหล่ (EBITDAR) เท่ากับ 4,439 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 2,944 ล้านบาท หรือร้อยละ 196.9

ส่วนผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 55 (1 มกราคม - 30 มิถุนายน 55) บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 2,210 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 2,118 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.97 บาท เปรียบเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 54 ซึ่งขาดทุนสุทธิ 7,256 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 3.32 บาท ทั้งนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรเบ็ดเสร็จอื่น จำนวน 54 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรเบ็ดเสร็จรวม 2,264 ล้านบาท โดยมีกำไรเบ็ดเสร็จส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ จำนวน 2,172 ล้านบาท

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 55 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 277,375 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2554 จำนวน 2,930 ล้านบาท หนี้สินรวมทั้งสิ้น 211,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 371 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 65,994 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,558 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ