GLOW เผยโรงไฟฟ้าปลวกแดง 110 MW เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์สิ้นปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 15, 2012 14:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอซ่า เอสคาเน่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทโกลว์ กล่าวว่า โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ขนาด 110 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่ตำบล ปลวกแดง ซึ่งจะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในสิ้นปีนี้

หลังจากที่ โครงการเก็คโค่-วัน ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อ 26 ก.ค.55 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกที่ใช้เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด (Clean Coal Technology) และใช้ Supercritical Boiler ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญของแผนการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัท อันประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้า CFB 3 และโครงการระยะที่ 5 ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2553 และ 2554

นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 1,550 กิโลวัตต์ ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแห่งแรกในประเทศไทยของกลุ่มบริษัท ได้เริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 55

สำหรับครึ่งปีแรกของปี 55 ปริมาณการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทเป็นไปในทิศทางที่ดี ทั้งนี้ปริมาณการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นผลเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของความต้องการจากลูกค้ารายใหม่ของโรงไฟฟ้ากำลังการผลิต 382 เมกะวัตต์ของโครงการโรงไฟฟ้าระยะที่ 5 แม้ว่าจะมีผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในไตรมาสแรก และ เหตุการณ์ระเบิดของกลุ่มลูกค้า BSTE ในช่วงไตรมาสที่สองก็ตาม

ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังคงส่งผลต่ออัตรากำไรจากการดำเนินงาน อัตรากำไรจากการขายไอน้ำ ในขณะที่ต้นทุนการผลิตของหน่วยการผลิตใหม่ที่ต่ำลงของโครงการโรงไฟฟ้า CFB 3 และโครงการระยะที่ 5 เข้ามาช่วยชดเชยราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับสูงขึ้น

ส่วนของธุรกิจไอพีพีนั้น โรงไฟฟ้าไอพีพีมีการดำเนินงานตามปกติในช่วงไตรมาสที่ 2 หลังจากมีการซ่อมบำรุงใหญ่ตามแผนในไตรมาส 1 ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาว (โรงไฟฟ้า ห้วยเหาะ) ได้กลับมาดำเนินงานตามปกติหลังจากที่ในปี 54 บริษัทได้ดำเนินการผลิตตามปริมาณขั้นต่ำเท่านั้น ซึ่งมีผลมาจากปริมาณน้ำฝนมีน้อยผิดปกติในช่วงปี 53 ที่ผ่านมา

ด้านนายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงิน GLOW กล่าวว่า บริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเพิ่มขึ้นอีก 5% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัท ในขณะที่กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้ และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เพิ่มขึ้น 15% ในครึ่งปีแรกของปี 55 แม้ว่ากำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ (NNP) จะอยู่ในระดับเดียวกับครึ่งปีแรกของปี 54 ก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ