(เพิ่มเติม) RICH คาดรายได้ปี 56 เป็น 8-9 พันลบ.หลังเพิ่มทุน จากปีนี้ 5-6 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 15, 2012 15:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ริช เอเชีย สตีล (RICH) ระบุว่า ภายหลังการเพิ่มทุน 2 พันล้านหุ้นจะทำให้รายได้ของบริษัทในปี 56 เพิ่มเป็น 8-9 พันล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 5-6 พันล้านบาท เนื่องจากเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนดังกล่าวบริษัทจะนำไปลงทุนในการขยายการลงทุนอื่นๆ เพื่อให้โครงสร้างรายได้เปลี่ยนไป จากเดิมที่เทรดดิ้ง 90% และผลิตเอง 10% เป็น 70:30 ซึ่งการเปลี่ยนแลงโครงสร้างรายได้ดังกล่าวจะส่งผลให้มาร์จิ้นของธุรกิจในประเทศ อยู่ที่ 2-4% และมาร์จิ้นธุรกิจต่างประเทศอยู่ที่ 10-25% เพิ่มขึ้น

ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนเข้าประมูลงาน 51 โครงการ มูลค่า 8 พันล้านบาท โดยบริษัทคาดหวังว่าจะได้ส่วนแบ่งราว 20% หรือคิดเป็น 1.6 พันล้านบาท และมั่นใจว่าปีนี้บริษัทจะพลิกกลับมาทำกำไรได้ เนื่องจากมีแผนขยายการลงทุนที่พร้อม และมีออเดอร์รองรับต่อเนื่อง

นางสาวอังคกาญจณ์ ตันติวิรุฬห์ ประธานกรรมการบริหาร RICH กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังรายได้มีแนวโน้มดีขึ้น โดยทั้งปีคาดว่ามีรายได้ 5-6 พันล้านบาท จากปี 54 ที่มีรายได้รวม 4 พันล้านบาท และหลังการเพิ่มทุนจำนวน 2 พันล้านหุ้น จะทำให้รายได้รวมปี 56 เพิ่มเป็น 8-9 พันล้านบาท และในปีนี้มั่นใจจะพลิกมีกำไรได้ เนื่องจากมีแผนการขยายการลงทุนและมีออร์เดอร์รองรับต่อเนื่อง

สำหรับแผนเพิ่มทุนจำนวน 2 พันล้านหุ้น จัดสรรขายผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 0.50 บาท เพื่อระดมทุนเงินทุน 1 พันล้านบาทนำไปลงทุนขยายกำลังการผลิตในบริษัท สยามเฟอร์โร อินดัสตรี จำนวน 400 ล้านบาท ซึ่งประกอบธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อขยายตลาดส่งออก โดยขยายกำลังการผลิตจาก 3 พันตัน เป็น 1.5 หมื่นตัน ส่วนอีก 150 ล้านบาทจะนำไปลงทุนขยายกำลังการผลิตของบริษัท ไทยเนชั่นแนลโปรดักส์ จำกัด จาก 1 หมื่นตัน เป็น 1.5 หมื่นตัน ส่วนเงินที่เหลืออีก 450 ล้านบาทจะนำไปลงทุนในโรงงานเหล็กรีดร้อน และธุรกิจเทรดดิ้ง

และหลังการเพิ่มทุนจะส่งผลให้อัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)ของบริษัทลดลงจากเดิม 2.8 เท่า เหลือ 1.4 เท่า ถือว่าอยู่ในระดับต่ำในกลุ่มธุรกิจเหล็กที่ส่วนใหญ่จะมี D/E ประมาณ 2.5-3 เท่า และหลังการนำเงินเพิ่มทุนขยายการลงทุนแล้วจะทำให้โครงสร้างรายได้ของบริษัทเปลี่ยนไป โดยสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งจะลดลงเหลือ 70% ของรายได้รวม จากเดิมอยู่ที่ 90% และรายได้จากการผลิตเองเพิ่มจากสัดส่วน 10% เพิ่มเป็น 30%

นอกจากนั้น ยังทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในประเทศอยู่ที่ 2-4% และต่างประเทศอยู่ที่ 10-15% จากการที่บริษัทหันมาผลิตสินค้าเฉพาะทางมากขึ้น เช่น ท่อเหล็กพิเศษ เสาเข็มรองรับแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นที่ต้องการในต่างประเทศค่อนข้างมาก

ปัจจุบัน บริษัทมี backlog ที่ 500 ล้านบาท และครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมเข้าประกวดราคา 51 โครงการ มุลค่ารวม 8 พันล้านบาท หวังว่าจะได้ส่วนแบ่งงาน 20% คิดเป็นมูลค่า 1.6 พันล้านบาท คาดมีข้อสรุปในปี 56


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ