นายวิเชียร อุษณาโชติ รองกรรมการผุ้จัดการใหญ่สายงานด้านธุรกิจโรงกลั่น บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP)คาดว่าไตรมาส 3/55 ผลประกอบการจะกลับมามีกำไรหลังจากไตรมาส 2/55 ขาดทุน เนื่องจากบริษัทเชื่อว่าจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน และค่าการกลั่นน่าจะขึ้นมาที่ระดับไม่ต่ำกว่า 9 เหรียญ/บาร์เรลช่วงซ่อมแซมหน่วยกลั่นที่ถูกไฟไหม้ จากนั้นในไตรมาส 4/55 ค่าการกลั่นจะกลับมาเป็น 7 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการทั้งปี 55 เป็นกำไรสุทธิได้
อย่างไรก็ตาม กำลังการกลั่นในไตรมาส 3/55 จะปรับลดลงมาที่ 4.5-4.8 หมื่นบาร์เรล/วันช่วงระหว่างปิดซ่อมแซมหน่วยกลั่นที่เกิดเหตุไฟไหม้เมื่อช่วงต้นปี และในไตรมาส 4/55 กำลังการกลั่นจะเพิ่มเป็น 9 หมื่นบาร์เรล/วันหลังจากหอกลั่นดังกล่าวกลับมาเดินเครื่องได้ในช่วงกลางเดือน ต.ค.เป็นต้นไป ทำให้ทั้งปี 55 กำลังการกลั่นเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 8 หมื่นบาร์เรล/วัน ลดลงจากเดิมคาดไว้ที่ 9.16 หมื่นบาร์เรล/วัน
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ขยายกำลังการกลั่นหอกลั่น 3 ที่ถูกไฟไหม้ เพื่อเพิ่มกำลังการกลั่นขึ้นอีก 2 หมื่นบาร์เรล/วัน เพื่อให้กำลังการกลั่นเพิ่มเป็น 1 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งจะใช้เงินลงทุนของบริษัทราว 25-30 ล้านบาทเสริมไปจากเงินชดเชยที่ได้จากบริษัทประกันภัย เมื่อรวมกับหอกลั่น 2 ที่มีกำลังการกลั่น 4 หมื่นบาร์เรล/วัน ก็จะทำให้รวมเป็น 1.4 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งจะเริ่มเดินเครื่องส่วนขยายในไตรมาส 1/57 และจะผลิตได้เต็มกำลังในปี 58
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ในไตรมาส 1/57 เป็นเวลา 40 วัน จากปี 56 ที่ไม่มีแผนปิดซ่อมบำรุงประจำปี
สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ คาดว่าในปีนี้จะรับรู้กำไรสุทธิ จำนวน 203 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากโครงการที่บางปะอิน เฟส 1 ระยะ 1 ที่มีจำนวน 8 เมกะวัตต์ และ ระยะ 2 มีจำนวน 30 เมกะวัตต์ รวมเป็น 38 เมกะวัตต์
ส่วนโครงการเฟส 2 มี 32 เมกะวัตต์ จากโครงการที่ชัยภูมิ ขนาด 16 เมกะวัตต์ คาดจ่ายไฟ (COD) ในเดือน ธ.ค. 55 และ โครงการที่บางปะหัน ขนาด 16 เมกะวัตต์ คาด COD ในไตรมาส 1/56 ส่วนโครงการเฟส 3 จำนวน 48 เมกะวัตต์ บริษัทมองหาพื้นที่โดยคาดว่าจะอยู่ที่ภาคกลาง คาดจะเริ่มก่อสร้างต้นปี 56
นายวิเชียร กล่าวถึงธุรกิจค้าปลีกของบริษัทว่า ยอดขายในปีนี้น่าจะเติบโต 10-15% หลังจากบริษัทร่วมกับบมจ.บิ๊กซี ซุปเปอร์มาร์เก็ต ตั้งสาขาร้านมินิบิ๊กซี 4 แห่งในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ขณะที่บริษัทมีแผนขยายการขายน้ำมันแก๊สโซฮออล์ E20 ในสถานีบริการน้ำม้นภายในสิ้นปีนี้เป็น 600 สถานีจากปัจจุบันเปิดขายอยู่ 508 แห่ง ส่วน E85 จะเพิ่มเป็น 50 แห่งจากปัจจุบัน 31 แห่ง
นอกจากนี้ ในเดือน ส.ค.นี้ จะมีการนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรก