บมจ.ซีเค พาวเวอร์ แต่งตั้งธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัท เคทีบี แอดไวเซอรี่ และบริษัท แอดไวเซอรี่พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายได้ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.55 หรืออย่างช้าต้นปี 56
ทั้งนี้ ซีเค พาวเวอร์จะนำหุ้นเพิ่มทุนและหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมนำออกเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 20% ของทุน คาดว่าหลังการขายหุ้น IPO สัดส่วนหุ้นของ CK จะลดลงไม่ต่ำกว่า 30% จากปัจจุบันที่ถืออยู่ 38% ของทุนจดทะเบียน 9.2 พันล้านบาท
บริษัทเป็นโฮลดิ้งคอมปานีที่มีบริษัทแกนอยู่ใน สปป.ลาว และเป็นบริษัทนำร่องสำหรับธุรกิจที่มีแผนขยายกิจการในต่างประเทศ โดยมีธุรกิจหลักคือเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 ในสปป.ลาว ผลิตไฟฟ้าขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการขยายลงทุนโรงไฟฟ้าในพม่าและเวียดนาม รวมทั้งการตั้งโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการ บมจ.ซีเค พาวเวอร์ กล่าวว่า การระดมทุนของบริษัทเพื่อนำไปใช้ลงทุนโครงการไฟฟ้าแสงอาทิตย์ โครงการพลังงานความร้อนร่วม และ เข้าลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ ได้แก่ พม่า เวียดนาม เป็นต้น โดยในปลายปีนี้ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จะเข้าลงทุนในบริษัท บางเขนชัย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 8 เมกะวัตต์ และ จะเข้าลงทุนในบริษัท บางปะอินโคเจน จำกัด ในสัดส่วน 65% ซึ่งจะซื้อจากบมจ.ช.การช่าง(CK) และผู้ถือหุ้นอื่น
ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า ตลท.ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับบริษัท Holding Company ที่มีธุรกิจหลักในต่างประเทศเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ซึ่งการปรับหลักเกณฑ์ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการปรับสัดส่วนการถือหุ้นของ Holding Company ในบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลัก เพื่อลดอุปสรรคในการร่วมทุนกับผู้ประกอบการในต่างประเทศ โดยเกณฑ์มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กันยายน 2555 เป็นต้นไป ซึ่งจะเป็นการสานโอกาสให้ธุรกิจไทยที่ลงทุนในต่างประเทศ สามารถระดมทุนจากตลาดทุนไทยเพื่อไปขยายกิจการให้เติบโตได้
“การขยายธุรกิจไปในภูมิภาคอินโดจีนและต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ในฐานะแหล่งระดมทุน มีนโยบายสนับสนุนธุรกิจไทยให้สามารถขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ และธุรกิจที่มีในปัจจุบันให้เติบโตยิ่งขึ้น" นายจรัมพร กล่าว