บมจ.อาร์เอส(RS) กล่าวว่า "อาร์เอสสปอร์ตลาลีกา"เตรียมงบลงทุนกว่า 1 พันล้านบาทเพื่อใช้ซื้อคอนเทนท์ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงผลิตคอนเทนท์เอง และทำการตลาดในช่วง 3 ฤดูกาลแข่งขันที่บริษัทได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลเมเจอร์ลีกของสเปน โดยในปีแรกบริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากการบริหารลิขสิทธิ์ดังกล่าวช่วงฤดูกาลแรกประมาณ 400 ล้านบาท และจะทำรายได้มากขึ้นในช่วงถัดไป
นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ RS กล่าวว่า เงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทนั้น แบ่ง 60% เป็นเงินลงทุนด้านคอนเทนท์ไม่ว่าจะเป็นการซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศหรือในประเทศ ขณะที่อีก 30% เป็นงบลงทุนด้านการผลิตคอนเทนท์เองและการออกอากาศ ส่วนอีก 10% เป็นงบการตลาด
บริษัทตั้งเป้ารายได้จาก 3 ฤดูกาลแข่งขันลีกลาลีกาสเปนไว้เบื้องต้น 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นฤดูกาลแรก 400 ล้านบาท ฤดูกาลที่ 2 ราว 600 ล้านบาท และฤดูกาลสุดท้าย 800 ล้านบาท คาดว่าจะมีกำไรทันทีตั้งแต่ฤดูกาลแรก โดยในปีนี้จะรับรู้รายได้ช่วง 4 เดือนแรก คาดว่าจะรายได้ที่เกิดขึ้นในปีนี้ 100-150 ล้านบาท ส่วนอีก 5 เดือนจะไปเป็นรายได้ปี 56
ขณะที่ บริษัทตั้งเป้าขายกล่องรับสัญญาณดาวเทียมซันบล็อกที่ 3 แสนกล่องภายในวันที่ 31 ต.ค.โดยล่าสุดทำยอดขายได้แล้ว 1.5 แสนกล่อง และคาดจะเพิ่มเป็น 5 แสนใน 31 ธ.ค.และ 3 ล้านก่อนบอลโลกในปี 2014
"เราตั้งเป้ารายได้จากสปอนเซอร์ทั้งหมดอยู่ที่ฤดูกาลละ 120-150 ล้านบาท ซึ่งเราขายเป็นแพ็ค ทั้งโฆษณาภายในช่อง และกิจกรรมโรดโชว์ การจัดถ่ายทอดสดนอกบ้าน ตลอดจนการส่งเสริมการขายแบบครบวงจร ทั้งนี้เชื่อว่าช่อง RS Sport LaLiga น่าจะทำรายได้รวมในฤดูกาลแรกที่ประมาณ 400 ล้านบาท โดย 100-150 ล้านบาทจะเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นในปี 2012”พรพรรณ กล่าว
นางพรพรรณ กล่าวว่า บริษัทเตรียมยื่นประมูลลิขสิทธิ์การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ โดยจะส่งเอกสารปลายเดือนก.ย.หรือต้นต.ค.5 และน่าจะมีผลสรุกในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งบริษัทจะยื่นประมูลตามลำพังในระดับราคาที่เหมาะสมและสามารถทำกำไรได้ เพราะนโยบายบริษัทต้องสร้างผลตอบแทนที่คุ่มค่ากับการลงทุนด้วย ไม่ได้หวังเพียงสร้างฐานผู้ชมอย่างเดียว
นอกจากนี้ เร็วๆ นี้จะเห็นการร่วมมือกับทรูวิชั่นส์ ในการที่เอาคอนเทนต์ของอาร์เอสเข้าไปในแพลทฟอร์มของทรูวิชั่นส์ ทั้งนี้ RS จะได้รับผลดีในแง่จะมีผู้ชมคอนเทนต์มากขึ้นจากฐานลูกค้าทรูฯ โดยทรูฯ กำลังพิจาณาวาจะนำคอนเทนต์ใดไปใช้บ้าง รวมถึงลาลีกาด้วยหรือไม่ แต่การเข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกเราคงไม่ร่วมกับทรูฯ เพราะทรูฯประกาศชัดเจนแล้วว่าจะยื่นคนเดียว
นางพรพรรณ กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าในปีนี้จะทำรายได้รวมตามเป้าหมาย 3.2 พันล้านบาท หลังจากธุรกิจทีวีดาวเทียมเติบโตได้ดีมาก โดยคาดว่าทั้ง 5 ช่องทีวีดาวเทียมของบริษัทจะทำรายได้ราว 750 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งเติบโตขึ้นราว 74% จากปี 54 ซึ่งจะส่งผลให้รายได้จากธุรกิจทีวีมีสัดส่วนเป็น 23% ของกลุ่ม ทำให้มั่นใจว่าปลายปีจะทำรายได้รวมตามเป้า 3.2 พันล้านบาท
สำหรับผลประกอบการในช่วงต่อจากนี้ กำไรสุทธิไตรมาส 3/55 จะสูงกว่าไตรมาส 2/55 ที่ 91 ล้านบาท จากธุรกิจทีวีดาวเทียมที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่อง 8 และการปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาจะเริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ส.ค.นี้
บริษัทคาดว่าสิ้นปีนี้ RS จะครองส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์)เม็ดเงินโฆษณาในธุรกิจทีวีดาวเทียมเป็นอันดับ 1 เพราะขณะนี้เรทติ้งของช่องสบายดีทีวีสูงสุดเป็นอันดับ 1 และส่วนอันดับ 2-3 เป็นช่องการ์ตูน ขณะที่ช่อง 8 ภายใต้การบริหารงานของบริษัทมีตำแหน่งเป็นอันดับที่ 4 คาดว่าปี 56 เม็ดเงินโฆษณาจากทีวีดาวเทียมจะสูงถึง 20% ของมูลค่าตลาดรวมที่ 6 หมื่นล้านบาท จากล่าสุดก.ค.อยู่ที่ 11% และสิ้นปีน่าจะสูงขึ้นเป็น 12-13% ส่วนการปรับขึ้นค่าโฆษณาในปี 56 คงจะมีการพิจารณากันอีกครั้ง
"ไตรมาส 3 กำไรน่าจะสูงขึ้น เพราะธุรกิจมีเดีย ทีวีดาวเทียม momentum ดีต่อเนื่อง อย่างช่อง 8 ดีขึ้นมาก"นางพรพรรณ กล่าว