ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงตัวเลขการอนุญาตสร้างบ้านในสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี และยอดค้าปลีกของอังกฤษที่เพิ่มขึ้นเกินคาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 271.22 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.
ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดลอนดอนที่ 5834.51 บวก 1.47 จุด ดัชนี DAX ปิดตลาดเยอรมนีที่ 6996.29 บวก 49.49 จุด ดัชนี CAC-40 ปิดตลาดฝรั่งเศสที่ 3480.49 บวก 31.29 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นถ้วนหน้าหลังจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างอยู่ที่ 812,000 ยูนิตในเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 6.8% จากเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 หรือในรอบ 4 ปี และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3% สู่ระดับ 770,000 ยูนิต ขณะที่เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างเพิ่มขึ้น 29.5%
ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) ที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนมิ.ย.ที่ปรับขึ้น 0.8% และหากเทียบกับเดือนก.ค.ปี 2554 ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 2.8% โดยปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนยอดขายให้เพิ่มขึ้นก็คือเชื้อเพลิงยานยนต์ที่พุ่งขึ้น 2.6% ในเดือนก.ค.
หุ้นเทสโก้พุ่งขึ้น 1.7% ขณะที่หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ดีดขึ้น 1.6% และหุ้นโฮม รีเทล ปรับตัวขึ้น 4.1%
หุ้นธนาคารบังเกีย พุ่งขึ้น 17% หุ้นธนาคารบังโค ป๊อปปูเลร์ เอสพานอล ทะยานขึ้น 15%
อย่างไรก็ตาม หุ้นโวดาโฟนร่วงลง 1.7%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในยุโรปวันนี้ โดยในเวลา 13.00 น.ตามเวลาไทย เยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. จากนั้นในเวลา 15.00 น.ตามเวลาไทย ยูโรสแตทจะเปิดเผยดุลการชำระเงินของสหภาพยุโรปเดือนมิ.ย. และเวลา 16.00 น.ตามเวลาไทย ยูโรสแตทจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศสหภาพยุโรปเดือนมิ.ย.