นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการ บมจ.การบินไทย (THAI) คาดว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้จะเติบโต 3% เป็นกว่า 1 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2 แสนล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกทำรายได้ต่ำกว่าประมาณการ และคาดว่ากำไรปีนี้จะไม่ถึง 6 พันล้านบาทที่ตั้งเป้าหมายไว้เช่นกัน เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นทั้งราคาน้ำมัน และค่าใช้จ่ายด้านบุคคลากรจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท/วัน
"รายได้ปีนี้คงไม่ถึงเป้า 2 แสนล้านบาท รายได้ครึ่งปีแรกต่ำกว่าเป้าไปแล้วประมาณ 2 พันล้านบาท"นายธีรศักดิ์ กล่าว
ขณะเดียวกันการจัดตั้งสายการบินต้นทุนต่ำ (Lowcost Airline) ได้ให้ฝ่ายบริหารไปศึกษาข้อมูลมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3 นี้ ก่อนจะตัดสินใจว่าจะเดินหน้าการจัดตั้งสายการบินต้นทุนต่ำหรือไม่ เพราะเห็นว่า หากไม่มีก็อาจจะสุ้กับคุ่แข่งไม่ได้ การบินไทยน่าจะมีแข่งขันได้ทุกระดับ
ส่วนการจัดหาเครื่องบินใหม่อีก 38 ลำ นายธีรศักดิ์ กล่าวว่า คาดว่าปลายปีนี้จะได้ข้อสรุปและนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท หรือต้นปีหน้า เพื่อพิจารณาก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
ด้านนายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ และ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ที่ระดับ 2 แสนล้านบาท และคงเป้าหมายอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ในปีนี้เฉลี่ยที่ 75% แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกรายได้จะพลาดเป้าหมายไป เนื่องจาก Cabin Factor ในเดือน มิ.ย.ทำได้ตามเป้าหมายแล้ว และตัวเลขในเดือน ก.ค.ก็ได้เกินเป้า เป็นสัญญาณที่ดีต่อผลงานในเดือนส.ค. และคาดว่าในช่วงก.ย. - ธ.ค.ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาล (high season) จะเติบโตได้ดีด้วย
"6 เดือนแรกรายได้และกำไรต่ำกว่าเป้าที่เราคาดหวัง แต่ Cabin Factor ในเดือนกรกฎาคมทะลุเป้า แสดงว่าการปรับกลยุทธ์บริหารการขายได้ผล คาดว่าทั้งรายได้และกำไรทั้งไตรมาส 3 และไตรมาส 4 มีสัญญาณที่ดีมาก"นายโชคชัย กล่าว
ทั้งนี้ ในเดือน ก.ค.55 Cabin Factor เฉลี่ย 79.8% สูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับเฉลี่ย 77.2% โดยเส้นทางข้ามทวีปมี cabin factor เพิ่มขึ้นจาก 79.3% เป็น 82.2% และเส้นทางภูมิภาคเพิ่มขึ้นจาก 74.2% เป็น 77.5%
นอกจากนี้ บริษัทได้บริหารความเสี่ยงราคาน้ำมัน โดยการทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน(headging)สำหรับครึ่งปีหลังที่ระดับ 80-90% และได้ทำ headging สำหรับครึ่งแรกในปี 56 ที่ระดับ 40% ไปแล้ว ขณะที่คาดว่าต้นทุนน้ำมันของบริษัทในครึ่งปีหลังจะต่ำกว่าตลาด
นายโชคชัย กล่าวว่า ในช่วงปี 56-58 บริษัทคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 30% จากปีนี้ หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% เนื่องจากปริมาณการผลิตผู้โดยสาร (Available Seat-Kilometer/ASK) ในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 8.3 หมื่นล้านกิโลเมตร จากปีนี้อยู่ที่ 7.9 หมื่นล้านกิโลเมตร พร้อมกันนั้น บริษัทจะเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้นตามที่ได้รับมอบเครื่องบินเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มจุดบินที่เมืองซับโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ในช่วงเดียวกันบริษัทจะไม่เพิ่มจำนวนพนักงาน นอกเหนือตำแหน่งนักบินและลูกเรือที่จะเติบโตตามจำนวนเครื่องบิน ทั้งนี้จะทำให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำลง เพราะค่าใช้จ่ายบริหารคงที่ ขณะเดียวกันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพพนักงานบริษัท ปัจจุบันมีจำนวนพนักงาน 25,000 คน โดยนักบินมี 1,500 คน และลูกเรือมี 6,500 คน
อนึ่ง เดือน ก.ย. 55 บริษัทจะรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A380 จำนวน 1 ลำ ที่มีจำนวนที่นั่งมากถึง 507 ที่นั่ง ซึ่งจะนำมาบินในเที่ยวบินไปสิงคโปร์และฮ่องกง และพ.ย.55 รับมอบอีก 1 ลำ จะนำไปบินในเที่ยวบิน กรุงเทพ-แฟรงเฟิร์ต
นายโชคชัย กล่าวว่า ในวันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังเห็นชอบการปรับโครงสร้างส่วนงานประชาสัมพันธ์ โดยเพิ่มงานด้าน Social Media เพราะมีความสำคัญมากในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า โดยสามารถโต้ตอบลูกค้าได้ทันที ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าติดต่อผ่าน Social Media ประมาณ 1.7 แสนราย หลังจากนี้จะตั้งเป้าเพิ่มจำนวนให้ถึง 1 ล้านราย