บมจ.เอเชียกรีน(AGE) คาดว่ารายได้ช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากราคาถ่านหินเริ่มทรงตัว จากที่ปรับลดลงไปมากในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับต้นทุนการขนส่งที่จะปรับลดลงประมาณ 2-3% หลังจากเริ่มรับรู้รายได้จากคลังถ่านหินในจ.อยุธยา ในช่วงไตรมาส 3/55 ซึ่งในเร็ว ๆ นี้บริษัทจะสรุปผลทบทวนประมาณการรายได้และกำไรในปีนี้ จากเบื้องต้นที่คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 6.7-7 พันล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 40% จากปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจากราคาถ่านหินที่ปรับลดลง แต่อย่างน้อยก็เชื่อว่ารายได้จะสูงขึ้นจากปีก่อน
นายสมยศ ฐิติสุริยารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานบริหาร AGE กล่าวว่า ราคาถ่านหินเริ่มทรงตัวในะดับ 85-90 เหรียญ-ตัน น่าจะส่งผลดีต่อราไยด้และกำไรในไตรมาส 3/55 ประกอบกับจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการคลังสินค้าและท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในไตรมาสทนี้ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนขนส่งลง 2-3 % หรือคิดเป็น 100 บาท/ตัน ซึ่งต้นทุนขนส่งคิดเป็น 35% ของต้นทุนโดยรวม
สำหรับการจะปรับลดเป้าหมายรายได้ ปี 55 จากเดิมที่ตั้งเป้า 6.8-7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากปี 54 โดยตั้งเป้าปริมาณการจำหน่ายถ่านหินปี 55 ไว้ที่ 2.8 ล้านตัน แต่ครึ่งปี 55 จำหน่ายได้เพียง 0.9 ล้านตัน แต่ทั้งนี้ เป้าที่ปรับลดคงจะไม่ต่ำกว่าปี 54 คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในสิ้นเดือน ส.ค. นี้
กรณีวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปนั้น กระทบธุรกิจ commodity ทุกกลุ่มอยู่แล้ว เพราะมีการสต็อกสินค้า ประเมินว่าปีหน้ากลุ่มธุรกิจจะต่างปรับตัวกัน แม้เศรษฐกิจยุโรปจะไม่ฟื้นก็ตาม ด้านการขยายธุกิจไปต่างประเทศ บริษัทมองเป็นโอกาสในการหาฐานลูกค้าใหม่ให้กว้างขึ้น เพราะเมื่อเศรษฐกิจกลับมาดีก็จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นมากด้วย
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) อยู่ที่ 1.78 เท่า และมีสัดส่วนขายในประเทศ 70% ส่งออก 30 % จากปี 54 สัดส่วนขายในประเทศอยู่ที่ที่ 71% ส่งออก 29%