(เพิ่มเติม) HMPRO คาดปี 55 รายได้โตไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่โต 17%,เปิดอีก 3 สาขา H2/55

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 20, 2012 14:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์(HMPRO)ใช้งบการตลาด 70 ล้านบาทจัดแคมเปญครบรอบ 16 ปี ลดราคาสินค้าสูงสุดกว่า 80% "โฮมโปร ฉลองครบรอบ 16 ปี จัดเต็มลุ้นลดรับเพิ่ม"ช่วง 23 ส.ค.-16 ก.ย.คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายกว่า 2.5 พันล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยผลักดันรายได้ของปีนี้ให้เติบโตได้ถึง 17% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับ 15%

แคมเปญดังกล่าวจะทำให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าทุกสาขารับได้ความคุ้มค่า 4 ต่อ คือ ต่อที่ 1 แคมเปญ ช้อปครบรับฟรีที่โฮมโปร โดยจะมีการแลกบัตรของขวัญของโฮมโปร เมื่อซื้อสินค้าครบตามที่กำหนด นอกจากนั้นยังร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพในการใช้จ่ายผ่านบัตร ซื้อสินค้าทุก 3 หมื่นบาทจะรับเงินคืนมูลค่า 800 บาท และ 6 หมื่นบาทรับเงินคืน 2,000 บาท

ต่อที่ 2 แลกซื้อสินค้าราคาพิเศษเมื่อช้อปครบ 3 หมื่นบาทขึ้นไป , ต่อที่ 3 สินค้าพิเศษรับคะแนนโฮฒการ์ด 16 เท่าแลกเป็นส่วนลดทันที และต่อที่ 4 โฮมการ์ด เพสทรีจพ้อยท์ ฉลองครบ 16 ปี ร่วมสนุกรับคะแนนสะสมฟรี 50-1,000 คะแนน

นอกจากนั้น โฮมโปรยังจัดโครงการสมทบทุนโครงการห้องน้ำของหนู โดยรับบริจาคคะแนนโฮมการ์ด และโฮมโปรจะสมทบทุนเท่ากับยอดบริจาค เพื่อร่วมแคมเปญ กิน ลม ชม ส้วมใหม่ ของหนู ที่จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทจัดโครงการปรับปรุงห้องน้ำของโรงเรียนประถมศึกษาที่ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 49

นายณัฐ กล่าวว่า ช่วงครึ่งแรกปี 55 บริษัทสามารถทำรายได้ 1.63 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 20.76% และคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังจะทำรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากการเปิดสาขาใหม่อีก 3 แห่ง คือ ที่ อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร, จ.อุบลราชธานี และ จ.ราชบุรี จากปัจจุบันที่มี 50 สาขา และบริษัทตั้งเป้ามีสาขาเพิ่มเป็น 60 สาขาในปี 56 อีกทั้งบริษัทยังมีการปรับการกระจายสินค้า รวมถึงเพิ่มสินค้าประเภท private brand ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่ดี คาดว่าปีนี้จะมีอัตราเติบโตถึง 20% สูงกว่าเป้าหมาย

บริษัทยังประเมินว่าในช่วงครึ่งปีหลังกำลังซื้อน่าจะดีขึ้น หากไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่จะส่งมาผลกระทบ จากช่วงครึ่งปีแรกที่กำลังซื้อมาจากการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม ซึ่งปัจจัยเสี่ยงทางธุรกิจ คือปัญหาภัยธรรมชาติและการเมืองเท่านั้น

สำหรับการเปิดสาขาที่ประเทศมาเลเซียนั้น ขณะนี้บริษัทได้รับใบอนุญาตจากทางการมาเลเซียแล้ว เหลือเพียงการเจรจาจัดซื้อที่ดินเท่านั้น ซึ่งยังเป็นปัญหาไม่สามารถหาข้อยุติได้ แต่หวังว่าน่าจะมีข้อสรุปในปีหน้า และหลังได้ที่ดินแล้วบริษัทจะเร่งดำเนินการโดยใช้เวลา 6-8 เดือนเพื่อเปิดสาขาได้

"เราต้องใช้ที่ดินขนาดใหญ่ และส่วนใหญ่เป็นที่ดินในมือเศรษฐี ลักษณะการขายที่ดินไม่เหมือนบ้านเรา เพราะทางเขาจะคิดด้วยว่าใครที่มาซื้อจะสร้างมูลค่าเพิ่มในที่ดินนั้นเท่าไร จึงจะตกลงเป็นราคาขาย ทำให้ดีลที่ดินนี้มีมูลค่าสูงมาก...ปีนี้ก็น่าจะไม่มีข้อสรุป ก็หวังว่าจะได้เห็นในปีหน้า"นายณัฎฐ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ