นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์(APCO)กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 55 ไม่น้อยกว่า 30% ถึงแม้ครึ่งปีแรกรายได้จะยังทำไม่ได้ตามเป้าหมาย โดยมีรายได้ 128 ล้านบาท แต่คาดว่าครึ่งปีหลังสูงกว่าครึ่งปีแรกหรือคาดว่าจะมีรายได้ราว 220 ล้านบาท รวมทั้งปีน่าจะมีรายได้สูงกว่า 300 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิในครึ่งปีหลังคาดว่าจะสูงกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากยอดขายสูงขึ้น ดังนั้น คาดว่ากำไรสุทธิทั้งปีจะสูงกว่าปีก่อน แม้ว่ากำไรสุทธิครึ่งปีแรกอยู่ที่ 23.3 ล้านบาททรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ช่วงครึ่งปีแรกบริษัทประสบปัญหาพนักงานขายตรงจำนวนหนึ่งลาออกไป ทำให้ผลประกอบการออกมาไม่ดีนัก แต่ในไตรมาส 3/55 สถานการณ์การขายกลับมาสู่ภาวะปกติแล้ว อีกทั้งในไตรมาส 4/55 บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ B-TOX เป็นครีมบำรุงผิวหน้าลบรอยย่นบนใบหน้า คาดว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดี โดยตั้งเป้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะทำยอดขาย 30-40 ล้านบาทในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
นายพิเชษฐ์ เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์สุขภาพในกลุ่ม Operation BIM ของบริษัทมีแนวโน้มได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ใช้ในตลาดต่างประเทศมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากการทดสอบผลิตภัณฑ์ Operation BIM ในการดูแลสุขภาพผู้ป่วยมะเร็งขั้นสุดท้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ผลจริง ซึ่งบริษัทได้ทำการทดสอบผลิตภัณฑ์ร่วมกับคณะแพทย์จากประเทศสหรัฐอเมริกา อิตาลี ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยได้ทำการประกาศผลงานวิจัยดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา
“การประกาศผลการวิจัยผลิตภัณฑ์ Operation BIM ถือเป็นครั้งแรกของโลกในการคิดค้นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้ป่วยมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้ วงการแพทย์และสุขภาพในหลากหลายประเทศเกิดความสนใจผลิตภัณฑ์ Operation BIM ของบริษัทเป็นอย่างมาก และได้มีการติดต่อเข้ามาเพื่อขอเจรจาเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วบางส่วน"ศาสตราจารย์ พิเชษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะกระจายผลิตภัณฑ์ Operation BIM ออกสู่ประเทศต่างๆทั่วโลก โดยจะทำการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับพันธมิตรในประเทศต่างๆที่มีศักยภาพทั้งในด้านของ การดูแล ให้คำปรึกษากับผู้ป่วย ตลอดจนมีช่องทางการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง เชื่อถือได้ เนื่องจากแผนธุรกิจในครั้งนี้ไม่ได้ดำเนินการเพื่อมุ่งหวังเพียงยอดจำหน่ายเท่านั้น แต่ต้องการให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีส่วนช่วยในการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งทั่วโลก ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการของบริษัทได้อนุมัติในหลักการเพื่อดำเนินงานต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในหลายประเทศคาดว่าจะได้ข้อสรุปในการดำเนินงานภายในปลายปีนี้
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรต่างประเทศเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในต่างประเทศ เพื่อนำผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพของบริษัทไปจัดจำหน่าย โดยพันธมิตรที่เจรจามาจากสหรัฐอเมริกาและอิตาลี เป็นต้น ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ข้อตกลงกับสหรัฐฯเป็นรายแรก จากที่บริษัทตั้งเป้าจะมีพันธมิตร 4-5 ประเทศ โดยรายได้จากพันธมิตรแต่ละประเทศน่าจะอยู่ที่ประมาณ 109 ล้านบาท/ประเทศ/ปี และปีต่อไปจะมีพันธมิตรจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยตั้งเป้าหมายระยะยาวไว้ที่ 20 ประเทศ