นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบต่อ รอปัจจัยใหม่ๆจากต่างประเทศเข้ามา โดยรอดูแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งฝั่งสหรัฐและยุโรปว่ามีมาตรการกระตุ้นการลงทุนด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นในกลุ่มต่างๆ ยังคงมีการสลับเล่น หุ้นกลุ่มสื่อสารช่วงสั้นยังได้โมเมนตั้มเชิงบวกเป็น positive โมเมนตั้มต่อหลังจากที่กสทช.ชุดใหญ่ได้อนุมัติเรื่องการประมูลใบอนุญาต 3G แต่ก็จะมีหุ้นบางกลุ่มถูกขายทำกำไรออกมา
ทั้งนี้ ให้กรอบการเคลื่อนไหววันนี้ที่ 1,230-1,238 จุด
ขณะที่ภาพรวมตลาดภูมิภาคเช้านี้บวกเล็กน้อย แต่ญี่ปุ่นติดลบเล็กน้อย
ทั้งนี้ วันนี้จะมีหุ้นน้องใหม่ บมจ.ทีวี ไดเร็ค (TVD) เข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai ที่ราคาไอพีโอ 2.10 บาท
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อล่าสุด(22 ส.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,172.76 จุด ลดลง 30.82 จุด(-0.23%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,413.49 จุด เพิ่มขึ้น 0.32 จุด(+0.02%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,073.67 จุด เพิ่มขึ้น 6.41 จุด (+0.21%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดวันนี้ นิกเกอิญี่ปุ่น ลดลง 51.07 จุด เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดจีน ลดลง 0.75 จุด ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 47.35 จุด เวทเต็ดไต้หวัน ลดลง 10.00 จุด คอมโพสิต ตลาดเกาหลีใต้ ลดลง 0.63 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 1.60 จุด FBMKLCI มาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.92 จุด และ FTSE STI สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.59 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(22 ส.ค.)ที่ระดับ 1,234.14 จุด เพิ่มขึ้น 1.85 จุด(+0.15%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 101.75 ล้านบาทเมื่อ 22 ส.ค.55
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 97.26 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.42 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(22 ส.ค.)ปิดทำการที่ 9.11 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 31.26/28 รับข่าวเฟดส่งสัญญาณออกมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่ม
- ผู้ประกอบการค้าปลีกคึกคัก เคลื่อนทัพลงทุนรับเออีซี "เซ็นทรัลรีเทล" เตรียมปิด 2 ดีลใหญ่ มั่นใจคว้าสิทธิแฟมิลี่มาร์ทสิ้นเดือนนี้ ลุ้นเข้าบริหารพื้นที่ดิวตี้ฟรี ดอนเมือง ขณะที่เบอร์ลี่ฯ แข่งซื้อแฟมิลี่มาร์ท เล็งผนึกเชนเครื่องสำอางเบอร์ 1 แห่งญี่ปุ่น ชน "ซูรูฮะ" ของเครือสหพัฒน์
- ไฮเนเก้นมุ่งมั่นซื้อ "ไทเกอร์เบียร์" เดินหน้าเก็บหุ้นในเอพีบีเป็น 44.6% หลังเข้าซื้อหุ้นจากเทมาเส็กโฮลดิ้งส์และผู้ถือหุ้นรายอื่น หวังสกัดกลุ่มไทยเบฟ นักวิเคราะห์คาดเอฟแอนด์เอ็นรายได้ลด หากขายเอพีบี
- สรรพสามิตเล็งเพิ่มภาษีเบียร์-ไวน์ เหตุอัตราภาษีเต็มเพดาน เตรียมปรับอีกหลายรายการ สั่งคุมเข้มชายแดนหวั่นลักลอบนำเข้าจากกัมพูชา-มาเลเซีย ขณะเครือข่ายต้านเหล้า-บุหรี่หนุนเต็มที่ เสนอปรับขึ้นทุกปีตามอัตราเงินเฟ้อ
- "ยิ่งลักษณ์"รับสภาพส่งออกทรุดหนัก ปรับเป้าทั้งปีเหลือ 9% สั่งคลอดมาตรการอุ้มผู้ส่งออกลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบ ลดหย่อนภาษีจากค่าใช้จ่ายแสดงสินค้า "ยรรยง" เร่งเข็นยอด 5 เดือนที่เหลือมูลค่า 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน เอกชนจี้นำค่าใช้จ่ายหาตลาดใหม่มาหักภาษีเงินได้ พร้อมเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% หนุนสินเชื่อแพ็คกิ้งเครดิต
- "สมาคมตราสารหนี้" ชี้เอกชนไทยแห่ออก หุ้นกู้ ตุนสภาพคล่องระยะยาว ตั้งรับวิกฤติยุโรป หวั่นนโยบายแบงก์รัดเข็มขัด ทำให้สภาพคล่องขาดมือ ประเมินปีนี้มูลค่าหุ้นกู้เอกชนแตะ 4 แสนล้าน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังครึ่งปีแรกออกไปแล้ว 2.8 แสนล้าน ด้าน ก.ล.ต.จับมือหน่วยงานตลาดทุนหนุนเอสเอ็มอีจัดเรทติ้งและออกหุ้นกู้
- แบงก์พาณิชย์ยังปั๊มเงินฝากต่อเนื่อง 7 เดือน เติบโต 17.32% หรือกว่าแสนล้านบาท ขณะที่สินเชื่อแบงก์ยังเพิ่มขึ้น 7.75% หรือ 4.4 แสนล้านบาท แบงก์กรุงศรีชี้การแข่งขันเงินฝากยังแรง แม้ต้นเดือนหน้าสภาพคล่องเพิ่มจากพันธบัตรออมทรัพย์ช่วยชาติครบกำหนดอีก 2 แสนล้านบาท เพื่อดึงเงินฝากรองรับสินเชื่อที่โตแรง พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ "กรุงศรี ออมทรัพย์ จัดให้" ให้ลูกค้าชำระค่าบิล หรือกดเอทีเอ็มต่างแบงก์ฟรีค่าธรรมเนียม
*หุ้นเด่นวันนี้
- BGH (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 115 บาท/หุ้น จากจำนวนผู้ป่วยเติบโตแข็งแกร่งของบริษัทฯ และการเพิ่มขึ้นของค่ารักษาพยาบาลต่อหัว ขณะที่แนวโน้มกำไรยังคงเติบโตดีต่อเนื่องในปี 2013-14 และยังคงขยายเข้าซื้อกิจการใหม่อย่างต่อเนื่อง
- CPF (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 47 บาท/หุ้น เชื่อการเติบโตของกำไรในปีนี้ที่อ่อนตัวลงได้ถูกสะท้อนแล้วในราคาหุ้น และแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในระยะยาวไม่มีการเปลี่ยนแปลง
- DTAC(ธนชาต)"ซื้อ" การประมูล 3G ในเดือน ต.ค.เป็นปัจจัยหนุน Sentiment ต่อราคาหุ้นในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า ถึงแม้ DTAC ต้องลงทุนขยายโครงข่าย 3G มูลค่าสูง นอกจากนี้ DTAC ยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลเป็นรายไตรมาส
- กลุ่มยานยนต์ (บัวหลวง)อุปสงค์ในยอดขายรถยนต์กลับมาฟื้นตัวเร็วกกว่าที่คาด (หลังจากเหตุอุทกภัยในไตรมาส 4/54)ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ นำโดยยอดขายอีโค-คาร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 68% YoY (ยอดขายรถบรรทุกเพิ่มขึ้น 21% YoY และรถโดยสารส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 30%) จากโครงการรถคันแรกของรัฐบาล