นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) กล่าวว่า ในช่วงเดือนสุดท้ายของไตรมาสนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่โดยขยายทำเลไปยังจังหวัดชลบุรีเป็นทำเลใหม่ที่ LPN ยังไม่เคยมีโครงการมาก่อน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งโปรเจคใหญ่ของปีนี้อย่างแน่นอน
ขณะที่เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดขายโครงการ ลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 60/2 ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องในย่านรามคำแหงซึ่ง LPN ยังมีฐานลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมาก โดยสามารถปิดการขายได้ถึง 800 ยูนิต คิดเป็นร้อยละ 70 ของห้องที่เปิดขายทั้งหมด รวมมูลค่า 1,000 ล้านบาท
"บริษัทมั่นใจว่าโครงการดังกล่าวจะขายหมดในเวลาอันรวดเร็วเนื่องจากจากกระแสการตอบรับของกลุ่มลูกค้าเป็นไปในทิศทางบวกโดยมีลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโครงการ พร้อมรับบัตรจองไปแล้วกว่า 1,000 ราย รูปแบบของโครงการมีห้องชุดทั้งหมดประมาณ 1,200 ยูนิต จำนวน 3 อาคาร ขนาดห้องชุด 22.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1 ล้านบาท และ ขนาดห้องชุด 26 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท สร้างแล้วเสร็จกลางปี 57"นายโอภาส กล่าว
ก่อนหน้านี้บริษัทได้พัฒนาโครงการในย่านรามคำแหงมาแล้ว 8 โครงการ คือ ลุมพินี เซ็นเตอร์ แอปปี้แลนด์ ลุมพินี เซ็นเตอร์ นวมินทร์ ลุมพินี เซ็นเตอร์ ลาดพร้าว 111 ลุมพินี คอนโดทาวน์ บดินทร์เดชา-รามคำแหง ลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 44 ลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 26 ลุมพินี คอนโดทาวน์ นิด้า-เสรีไทย 1 และ ลุมพินี คอนโดทาวน์ นิด้า-เสรีไทย 2 ปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากยอดขายที่สามารถปิดการขายได้ทั้งหมด โดยเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองถึงร้อยละ 80 รวมทั้งยังมีลูกค้าอีกกว่า 1,000 รายที่อยู่ในรายชื่อ Waiting List
เมื่อประกอบกับราคาขายที่เริ่มต้นเพียงยูนิตละ 1 ล้านบาท ความหนาแน่นของประชากรที่ยังคงมีอยู่สูงที่เช่าอพาร์ทเมนท์ และการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาพักอาศัยในย่านนี้ของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัย ABAC สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ที่มีจำนวนนักศึกษารวมกว่า 40,000 คน ทำให้บริษัทเชื่อมั่นว่า ลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 60/2 จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ตอบสนองความต้องการบ้านคุณภาพหลังแรกในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ (Affordable Price) รวมทั้งการซื้อเพื่อการลงทุน โดยเริ่มต้นเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น