น.ส.ศิริรัตน์ วงศ์วัฒนา กรรมการรองประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค(PF) คาดว่า กำไรสุทธิของบริษัทในปี 55 คาดว่าจะทำสถิติสูงสุด 800-1,000 ล้านบาท จากที่เคยทำไว้สูงสุดในรอบ 5 ปีอยู่ที่ 804 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมียอดขายขอโอน(Backlog)อยู่ที่ 6,098 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม 5,234 ล้านบาท โครงการแนวราบ 864 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 2,000 ล้านบาท
ด้านนายชายนิด โง้วศิริมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค(PF) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 9 โครงการ มูลค่ารวม 8,620 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ 7 โครงการ มูลค่ารวม 7,420 ล้านบาท คอนโดมิเนียมและหอพักนักศึกษาอีก 2 โครงการ มูลค่า 1,200 ล้านบาท โดยแผนการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์หลังจากนี้จะมุ่งเน้นในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียมที่มีอัตราการเติบโตสูงกว่าบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากคอนโดมิเนียมเพิ่มเป็น 40% ในปี 56
ช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมเข้ามาอีกประมาณ 3,000 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรกมีเพียง 786 ล้านบาท โดยเฉพาะในไตรมาส 4/55 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดของปี เพราะมีทั้งยอดการโอนคอนโดมิเนียมและมีรายได้จากการโอนโครงการหอพักยูนิลอฟท์เข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) ซึ่งเลื่อนมาจากไตรมาส 2 ดังนั้นจึงมีความเชื่อมั่นว่ารายได้รวมในปี 55 จะทำได้มากกว่า 12,000 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
"ผลการดำเนินงานของ PF ในปีนี้ น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ จากครึ่งปีแรกสามารถทำได้ตามที่ตั้งเป้า และในช่วงครึ่งปีหลังโดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายจะมียอดโอนคอนโดมิเนียมเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นไตรมาสที่พีคที่สุดของปีนี้ หลังจากนี้ไป PF จะรุกหนักในส่วนของคอนโดฯ มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ที่ใช้เงินลงทุนมาก เปลี่ยนแปลงไป"นายชายนิด กล่าว
ส่วนความคืบหน้าของโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ นายชายนิด กล่าวว่า เตรียมจะเปิดตัวโครงการแรกอย่างเป็นทางการในช่วงต้นไตรมาส 4/55 บนทำเลถนนรัชดาภิเษก เนื้อที่ 25 ไร่ มูลค่าโครงการราว 1 หมื่นล้านบาท และอีกหนึ่งโครงการบนทำเลถนนกัลปพฤกษ์ โดยขณะนี้ได้มีการเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศเพื่อร่วมลงทุนในโครงการคอมมูนิตี้มอลล์อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ แต่บริษัทก็จะยังคงถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 51%
นอกจากนี้ PF ยังมีแผนออกไปลงทุนต่างประเทศ เพื่อใช้ประโยชน์จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้จัดตั้งบริษัทย่อย คือ Property Perfect International (PPI) ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อเป็นฐานหรือบริษัทหลักสำหรับการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่ง PF ถือหุ้น 100% โดยแหล่งที่มาของเงินทุน จะใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัท และมีมติให้เงินกู้ยืมแก่บริษัทย่อยเพื่อนำไปลงทุนในต่างประเทศ ในรูปของหุ้นทุนและเงินให้กู้ยืมเป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาช่องทางการออกไปลงทุนต่างประเทศ