โบรกเกอร์ เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์(AP) จัดให้เป็น Top picks ของกลุ่มที่อยู่อาศัย แนวโน้มผลประกอบการในช่วง 2-3 ปีนี้จะเติบโดเด่นต่อเนื่อง จากยอด Presale ที่โดดเด่นในปัจจุบัน และ Backlog ที่สูงราว 31 พันล้านบาท
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีหลัง(H2/55)จะมากกว่าครึ่งปีแรก(H1/55) รวมปีนี้จะโตสูง โดยในครึ่งปีหลัง(H2/55)จะมีการเปิดโครงการใหม่ 10 แห่ง มูลค่าประมาณ 11.6 พันล้านบาท ขณะที่ในช่วงครึ่งปีแรก(H1/55)ได้เปิดโครงการไป 7 โครงการ มูลค่าประมาณ 8.7 พันล้านบาท
AP มีข้อดีอีกที่มีสินค้าหลากหลาย ช่วยทำให้กระจายความเสี่ยง เพราะมีทั้งคอนโดมิเนียม, บ้านเดี่ยว และทาวโฮมส์
นอกจากนี้ มองว่า AP ยังมีกำไรที่เติบโตดีในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีกำไรอยู่ในช่วง 1,990-2,266 ล้านบาท(ไม่รวมรายการพิเศษ) และปีหน้ากำไรจะอยู่ในช่วง 2,386-2,760 ล้านบาท(ไม่รวมรายการพิเศษ) ซึ่งเป็นผลจากรายได้ที่สูงขึ้น และภาษีเงินได้ที่ลดลง
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.ไทยพาณิชย์ ซื้อ 9.30 บล.ยูโอบี เคย์เฮียนฯ ซื้อ 8.10 บล.ฟิลลิป ซื้อเก็งกำไร 7.90 บล.เคที ซีมิโก้ ซื้อ 8.00 บล.ทรีนีตี้ ซื้อ 8.80 บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ซื้อ 8.50 บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ซื้อ 8.70 บล.บัวหลวง ซื้อ 8.60 บล.ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 8.20
นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)แนะนำ"ซื้อ"หุ้น AP ด้วยราคาเป้าหมาย 8.70 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นการประเมินด้วยค่า P/E ปี 55 ที่ 12 เท่า และจัดให้เป็นหนึ่งในกลุ่ม Top picks ของกลุ่มที่อยู่อาศัย
จุดเด่นของ AP อยู่ที่การมียอดขายรอรับรู้รายได้ที่สูงมาก โดยข้อมูล ณ วันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา มีมูลค่าถึง 31 พันล้านบาท ซึ่งตรงนี้ทำให้รายได้ของ AP มั่นคงไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ปีนี้มองว่า AP ยังมีกำไรที่เติบโตดี โดยคาดว่าจะมีกำไรหลักเติบโต 32% มาอยู่ที่ 2,048 ล้านบาท(ไม่รวมรายการพิเศษ) และปีหน้ากำไรก็จะเติบโตขึ้นไปอีก 35% มาอยู่ที่ 2,760 ล้านบาท(ไม่รวมรายการพิเศษ) ซึ่งเป็นผลจากรายได้ที่สูงขึ้น และภาษีเงินได้ที่ลดลง
สำหรับในครึ่งปีหลัง(H2/55)มองว่ายอด Presale ของ AP ยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากจะมีการเปิดโครงการใหม่อีก 10 แห่ง มูลค่าประมาณ 11.6 พันล้านบาท เป็นแนวราบ 8 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ขณะที่ในช่วงครึ่งปีแรก(H1/55)ได้เปิดโครงการไปแค่ 7 โครงการ มูลค่าประมาณ 8.7 พันล้านบาท
นายสมบัติ กล่าวอีกว่า AP มีข้อดีอีกที่มีสินค้าหลากหลาย ช่วยทำให้กระจายความเสี่ยง เพราะมีทั้งคอนโดมิเนียม, บ้านเดี่ยว และทาวโฮมส์
ด้าน น.ส.เติมพร ตันติวิวัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)กล่าวว่า จัด AP อยู่ในกลุ่ม Top Picks เนื่องจากมีการเติบโตดีทั้งในส่วนของรายได้ และยอด Presale ข้อมูล ณ 10 ส.ค.55 มี Backlog รอรับรู้สูงมากถึง 31,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้เป็นแรงหนุนสำหรับปีหน้าที่จะมีการเติบโตดีด้วย โดย Backlog ที่ว่ามานี้จะมีการรับรู้ในครึ่งปีหลัง(H2/55)ประมาณ 8,000 ล้านบาท และรับรู้ในปีหน้าประมาณ 13,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือก็จะทยอยรับรู้ในปี 54-58
นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/55)AP จะมีการเปิดโครงการใหม่ 10 แห่ง มูลค่าประมาณ 11,600 ล้านบาท โดยเป็นบ้านเดี่ยว 2 โครงการ, ทาวเฮ้าส์ 6 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ซึ่งตรงนี้ก็ยิ่งเป็นการทำให้ Backlog ของ AP มีความมั่นคงมากขึ้นไปอีก
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 1,990 ล้านบาท เติบโต 28% จากปีที่แล้วและในปีหน้าคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 2,386 ล้านบาท
ส่วน บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น AP ประเมินราคาเป้าหมายปี 55 จะได้เท่า 8.80 บาท แนวโน้มผลประกอบการในช่วง 2-3 ปีนี้จะเติบโดเด่นต่อเนื่อง จากยอด Presale ที่โดดเด่นในปัจจุบัน และ Backlog ที่สูง
ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะมากกว่าครึ่งปีแรก รวมปีนี้จะโตสูง โดย AP มียอดขายที่รอรับรู้รายได้ หรือ Backlog ปัจจุบัน เท่ากับ 30,956 ล้านบาท นอกจากนี้ AP ยังมีโครงการเหลือขายรวมมูลค่ากว่า 26,060 ล้านบาท แยกเป็นบ้านเดี่ยว 8,525 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ 6,978 ล้านบาท และ คอนโดฯ 10,557 ล้านบาท โดยผู้บริหาร AP ประเมินยอดรับรู้รายได้รวมในปี 55 จะเท่ากับ 17,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 25% จากปีก่อน
ทั้งนี้ ครึ่งปีแรกรับรู้รายได้ไปแล้ว 6,997 ล้านบาท คาดครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านบาท จึงประเมินกำไรของ AP ในปี 55 เท่ากับ 2,266 ล้านบาท(กำไรต่อหุ้น 0.80 บาท)เติบโตถึง 46% จากปีก่อน