นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ (CHOW) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายและบริการปีนี้เติบโต 20-30% มาที่ 6,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 5,700 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกทำรายได้แล้ว 2,790 ล้านบาท
ส่วนปริมาณขายเหล็กปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 20-30% มาที่ 3 แสนกว่าตัน จากปีก่อน 2.9 แสนตัน โดยครึ่งแรกขายแล้ว 1.5 แสนตัน และแนวโน้มครึ่งปีหลังคาดว่าจะขายได้ดีมากกว่าครึ่งปีแรก เพราะเข้าสู่ฤดูกาลการก่อสร้าง ซึ่งจะเข้าสู่ high season ของธุรกิจอีกครั้งในไตรมาส 4/55 ขณะที่ไตรมาส 3/55 มีคำสั่งซื้อที่รอส่งมอบลูกค้าแล้วถึง 5 หมื่นตัน จึงมั่นใจว่าทั้งปีน่าจะได้ตามเป้า
ขณะที่ส่วนต่างราคาขายกับวัตถุดิบ(สเปรด)กลับสู่ภาวะปกติแล้วตั้งแต่ไตรมาส 2/55 เป็นต้นมา คือมาอยู่ที่ 5.00-5.70 บาท/ก.ก.เนื่องจากสต็อกวัตถุดิบราคาสูงหมดไป จากไตรมาส 1/55 ที่มีระดับสเปรดต่ำกว่าปกติ หรือต่ำกว่า 5 บาท/ก.ก.เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจโลก ขณะที่ราคาขายไม่ได้ปรับขึ้น โดยราคาขายของปีนี้อ่อนตัวลงมาบ้างเมื่อเทียบปีก่อน ครึ่งปีแรกราคาขายเฉลี่ยที่ 19 บาท/ก.ก.จากปีก่อนเฉลี่ยทั้งปี 19.5 บาท/ก.ก.ซึ่งต้องรอดูราคาขายเฉลี่ยครึ่งปีหลังด้วย
"ครึ่งหลังนี้คำสั่งซื้อเข้ามาหนาแน่นแล้ว ถ้าเราเร่งขายน่าจะได้ไตรมาสละ 8-9 หมื่นตัน เพราะเข้าสู่ season ก่อสร้าง จากปกติจะขายไตรมาสละ 7.5 หมื่นตัน"นายอนาวิล กล่าว
นายอนาวิล กล่าวว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมเหล็กแท่งยาว หรือ Steel Billet ในครึ่งปีหลังว่ายังเติบโตต่อเนื่องได้ จากความต้องการใช้เหล็กในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ยังคงขยายตัวอย่างชัดเจน รวมทั้งการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ประกอบกับในช่วงไตรมาสที่ 4 ของทุกปีจะเป็นช่วงฤดูการขาย (High Season) เนื่องจากหมดฤดูฝน ทำให้การก่อสร้างต่างๆ เริ่มเดินหน้าได้อย่างเต็มตัว สนับสนุนให้การใช้เหล็กเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะสะท้อนให้ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะออกมาดีอย่างต่อเนื่องได้
ส่วนการตั้งโรงงานแห่งใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิต 1 ล้านตัน/ปี ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นศึกษาว่าจะใช้เทคโนโลยีของประเทศใด โดยมองเทคโนโลยีของยุโรปและจีน คาดสรุปผลภายในสิ้นปีนี้
"ต้องศึกษาเทคฯให้ดีก่อนเพราะเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 3,000-4,000 ล้านบาท เทคโนฯที่จะใช้ต้องเหมาะสมกับยอดเงินลงทุน" นายอนาวิล กล่าว