ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อวันศุกร์ (24 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กำลังพิจารณาการกำหนดกรอบเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลในยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางหลายแห่งจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ดัชนี Stoxx 600 ขยับขึ้น 0.1% ปิดที่ 268.0 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3433.21 จุด บวก 0.65 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6971.07 จุด บวก 21.50 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทรงตัวที่ 5776.60 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปขยับขึ้นหลังจากมีรายงานว่า อีซีบีกำลังพิจารณาการกำหนดกรอบเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลในยูโรโซน เพื่อควบคุมต้นทุนการกู้ยืมและป้องกันการลุกลามของวิกฤตหนี้สาธารณะ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าเฟดจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม พร้อมกับจับตาดูนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมเศรษฐกิจประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 31 ส.ค.นี้
นักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวของมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซ หลังจากนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีกล่าวว่าเยอรมนีจะสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลกรีซในการแก้ไขวิกฤตหนี้สินอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และได้ย้ำถึงความต้องการให้กรีซอยู่ในยูโรโซนต่อไป แต่เยอรมนีก็ไม่ได้ทำข้อตกลงที่จะขยายเวลาให้กรีซดำเนินแผนการปรับลดค่าใช้จ่าย
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นริโอทินโต ร่วงลง 1.6% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดิ่งลง 1.4% หุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 2.9% ส่วนหุ้นยูเรเซียน เนเชอรัล รีซอสเซส (ENRC) ดิ่งลง 3.6% หลังจากมีรายงานว่า ENRC อาจจำเป็นต้องขายสินทรัพย์บางส่วนหรือเพิ่มทุนโดยผ่านการออกหุ้นใหม่ อันเนื่องมาจากภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม หุ้นโนเกียพุ่งขึ้น 4.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 8 วันทำการ
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศยุโรปในวันนี้ โดยในเวลา 15.00 น.ตามเวลาไทยสถาบัน Ifo จะเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนีเดือนส.ค. และเวลา 17.00 น.ตามเวลาไทย จะมีการเปิดเผยอัตราขยายตัว GDP ของประเทศในกลุ่ม OECD ประจำไตรมาส 2/55